ฟุตบอลญี่ปุ่น TRB FEATURE

THE VETERAN : 10 แข้งจอมเก๋าแห่งเจลีก

ปัจจุบันหลายสโมสรอาชีพในประเทศญี่ปุ่นยังคงมีนักเตะประสบการณ์สูงที่อายุแตะเลข 30 ปลายๆขึ้นไปอยู่ค้าแข้งในฤดูกาล 2018 นี้ แน่นอนว่าจากชั่วโมงบินที่สูง ทำให้บรรดาสตาร์จอมเก๋าเลือดซามูไรเหล่านี้มักจะมีหน้าที่คอมให้คำแนะนำประสบการณ์ลูกหนังให้กับแข้งรุ่นน้อง นอกเหนือไปจากการลงทำหน้าที่ในสนาม และนี่คือ 10 นักเตะจอมเก๋าแห่งวงการลูกหนังลูกพระอาทิตย์

กด Next เพื่ออ่าน

1. เคงโงะ นาคามูระ (37 ปี)

จอมทัพลูกหม้อคาวาซากิ ฟรอนทาเล แชมป์เจ1ลีกฤดูกาลล่าสุด มีโอกาสอยู่รับใช้สโมสรมาตั้งแต่ปี 2003 นับตั้งแต่ที่เรียนจบการศึกษา ซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบ 15 ซีซันกับฟรอนทาเล เคงโงะยึดตัวหลักให้กับทีมมาตั้งสมัยที่โลดแล่นในเจทู กระทั่งกลับขึ้นมาเล่นในเจ1 เมื่อปี 2005 เขาก็ยังคงได้รับความไว้วางใจในฐานะเพลย์เมกเกอร์ตัวหลักเช่นเดิม โดยเบ็ดเสร็จแล้วเจ้าตัวอยู่รับใช้สโมสรมาแล้วถึง 492 นัด ยิง 74 ประตู กับ 104 แอสซิสต์ ทั้งยังซิวเกียรติประวัติส่วนตัวทั้งรางวัลแข้งยอดเยี่ยมในปี 2016 รวมถึงมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมมากถึง 7 ฤดูกาล

ส่วนโอกาสกับทีมชาติ เคงโงะเริ่มมีชื่อติดธงตั้งแต่ปี 2006 และมีชื่อติดทีมเรื่อยมาจนกระทั่งยุติบทบาทในทีมชาติเมื่ิอปี 2015 โดยรวมแล้วเขาได้โอกาสสวมยูนิฟอร์มซามูไรบลูไปทั้งหมด 68 นัด พร้อมยิง 6
ประตู

2. มิซูโอะ โอกาซาวาระ (อายุ 38 ปี)

มิดฟิลด์ลูกหม้อของคาชิมา อันท์เลอร์สรายนี้ได้รับโอกาสลงสนามในนามทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 1998 ในวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น กระทั่งเริ่มมาฉายแววเด่นกับทัพกวางเขาเหล็กเมื่อฤดูกาล 2000 จากสถิติลงสนามรวมทุกรายการไป 44 นัดกับ 10 ประตู นำมาสู่ใบเบิกทางให้โอกาซาวาระก้าวขึ้นไปติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ลงเล่นฟุตบอลโลก 2002 เมื่อครั้งที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ และหลังจบรายการเวิลด์คัพบนแผ่นดินเอเชีย ดาวเตะจากจังหวะอิวาเตะก็ยังคงรับใช้คาชิมาเรื่อยมาจนกระทั่งปี 2006

หลังจบการแข่งฟุตบอลโลก 2006 ที่โอกาซาวาระก็ยังคงมีชื่อติดทีม เขาตัดสินใจออกไปหาประสบการณ์ในต่างแดนในศึกกัลโช เซเรียอา กับเมสซีนา ทว่ากับโอกาสในดินแดนมะกะโรนี เจ้าตัวกลับล้มเหลวในเส้นทางลูกหนังอย่างสิ้นเชิง หลังมีโอกาสลงเล่นในลีกเพียง 6 เกม มิหนำซ้ำ เมสซีนาเองก็จบอันดับบ๊วยของลีกฤดูกาล 2006-07 จนพาให้ตัวเขากลับมาค้าแข้งกับทีมปลุกปั้นมาตั้งแต่เยาวชนอีกครั้งในซีซัน 2007 และเรื่อยมาจนปัจจุบัน

สำหรับเกียรติประวัติร่วมกับคาชิมา กองกลางที่ปัจจุบันอายุ 40 ปี มีสถิติลงสนามให้ทีมไปทั้งสิ้น 487 นัด ทำ 51 ประตูกับ 64 แอสซิสต์ และอยู่คว้าแชมป์กับทีมรวมทุกรายการถึง 21 โทรฟี

3. ชินจิ โอโนะ (อายุ 38 ปี)

เพื่อนร่วมทีมคนปัจจุบันของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในนามคอนซาโดเล ซัปโปโร นับเป็นอีกหนึ่งสตาร์เลือดซามูไรที่น่าจับตาตั้งแต่อายุยังน้อย หลังพกดีกรีดาวรุ่งยอดเยี่ยมของเอเชียประจำปี 1998 ก่อนจะย้ายไปสร้างชื่อในดินแดนยุโรปกับสโมสรเฟเยนูร์ด หลังอยู่ค้าแข้งกับอูราวะ เรดส์ จนก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักให้ทีมตั้งแต่อายุ 19 ปี โดยตลอดระยะเวลาในลีกสูงสุดแดนดัตช์ โอโนะอยู่ลงเล่นกับทีมเป็นเวลาเกือบ 5 ฤดูกาล และเป็นหนึ่งในขุนพลชุดคว้าแชมป์ยูฟา คัพ เมื่อปี 2001-2002 มาแล้ว

จากนั้นโอโนะมีโอกาสกลับมาเล่นกับเรดส์คำรบสอง และพาทีมซิว 4 แชมป์ในเวลา 2 ปี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแชมป์เอซีแอล 2007 กระทั่งโยกไปยุโรปอีกครั้งในลีกบ่มเพาะแข้งเอเชียอย่างบุนเดสลีกากับโบคุม เป็นเวลา 3 ปี ก่อนจะกลับมาโลดแล่นในเอเชียหนสามกับชิมิสุ เอสพัลส์, เวสเทิร์นครับ ซิดนีย รวมถึงนกเค้าแมวเมืองเหนือตั้งแต่ปี 2014 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยรวมแล้วโอโนะผ่านการลงเล่นในเจลีกไปแล้วกว่า 139 นัด

4. ยาซุฮิโตะ เอนโด (38 ปี)

อดีตซูเปอร์สตาร์ทีมชาติญี่ปุ่นฉายแววเด่นตั้งแต่เป็นนักเตะยังบลัด หลังมีส่วนสำคัญการพาทีมชาติญี่ปุ่นชุดเล็กสร้างเซอร์ไพรส์ทะลุเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลกเมื่อปี 1999 และเริ่มก้าวสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในวัย 22 ปี ซึ่งจากด้วยความสามารถที่มี เล่นลูกนิ่งสุดแม่นยำ ทำให้เพลย์เมกเกอร์ระดับตำนานรายนี้ครองตำแหน่งนักเตะที่ลงเล่นให้ทีมชาติญี่ปุ่นมากที่สุดถึง 152 นัด

ขณะที่ผลงานการค้าแข้งในระดับสโมสร เอนโดเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับโยโกฮามา ฟูเกลส์, เกียวโต ซังงะ จนมาถึงการสานเส้นทางเป็นตำนานของทัพเด็กสายฟ้าตั้งแต่ปี 2001 โดยปัจจุบันเขาฝากผลงานในสีเสื้อกัมบะไปแล้วถึง 546 เกม ทำไป 103 ประตู กับ 146 แอสซิสต์ กวาดความสำเร็จร่วมกับทีมจากการคว้าแชมป์ 13 รายการตลอดระยะเวลา 17 ปีกับสโมสร

5. จุนอิจิ อินาโมโตะ (38 ปี)

ก่อนจะออกไปเก็บประสบการณ์ในลีกยุโรป อินาโมโตะสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองตั้งแต่เป็นเยาวชน หลังตัวเขาได้รับสัญญาอาชีพจากกัมบะ โอซากา ทั้งที่ยังเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลาย และอยู่ค้าแข้งกับเด็กสายฟ้าเป็นเวลากว่า 5 ฤดูกาล ควบคู่กับไปการมีชื่อติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดเล็กในรายการฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลกเมื่อปี 1999 และสามารถพาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้อย่างเหนือความคาดหมาย จนฟอร์มจะไปเข้าตาทีมยักษ์ใหญ่แห่งลอนดอนอย่างอาร์เซนอลคว้าตัวมาร่วมทีมในที่สุด

แม้ผลงานกับไอ้ปืนใหญ่จะล้มเหลว แต่หลังจากนั้นอินาโมโตะก็ยังคงได้รับโอกาสจากทีมน้อยใหญ่ในยุโรปทั้งฟูแลม, เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน, คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้, ไอทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, กาลาตาซาราย รวมถึงแรนส์ เป็นเวลารวมกว่า 9 ฤดูกาล

กระทั่งกลับมาเล่นในลีกบ้านเกิดกับ คาวาซากิ ฟรอนทาเล (5 ฤดูกาล) มาจนถึงคอนซาโดเล ซัปโปโร ต้นสังกัดปัจจุบัน ที่อยู่เล่นมาตั้งแต่ปี 2015 และแม้จะไปค้าแข้งในลีกยุโรปเป็นเวลานาน ทว่าอดีตกองกลางทีมชาติญี่ปุ่น 82 เกม ก็มีสถิติลงสนามในนามเจลีกเกิน 100 เกม

6. ยูจิ นาคาซาวะ (อายุ 39 ปี)

ปราการหลังจอมแกร่งที่พกประสบการณ์ติดทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วถึง 110 เกม (สูงสุดเป็นอันดับ 4 ร่วมกับชินจิ โอคาซากิ) เริ่มเส้นทางลูกหนังกับการไปฝึกฟุตบอลที่ อเมริกา มิเนโร ในบราซิล ก่อนจะกลับมาเล่นอาชีพในประเทศบ้านเกิดกับทีมโตเกียว เวอร์ดี ในปี 1999 และอยู่ลงเล่นให้ทีมจากเมืองหลวงแดนอาทิตย์อุทัยไปทั้งสิ้น 3 ฤดูกาล กระทั่งโยกมาค้าแข้งกับโยโกฮามา เอฟ มารินอส ในปี 2002 จนกลายเป็นนักเตะระดับตำนานของสโมสรไปแล้ว

กับโอกาสที่มารินอส กองหลังเจ้าของส่วนสูง 187 เซนติเมตร ยึดตำแหน่งตัวจริงได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก มีส่วนพาทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย และแชมป์เอ็มเพอร์เรอร์สคัพอีก 1 สมัย ตลอดสถิติ ลงสนามกว่า 500 เกมกับ 30 ประตู นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเคยถูกเลือกติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของเจลีกถึง 5 ครั้ง และเคยได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2004 มาแล้ว

7. ชุนสุเกะ นาคามูระ (39 ปี)

เพลย์เมกเกอร์เจ้าของลูกฟรีคิกอันเป็นเครื่องหมายการค้า ถือเป็นนักเตะญี่ปุ่นส่งออกลีกยุโรปที่ใครหลายคนต้องยอมรับ เพราะจากผลงานสมัยที่ค้าแข้งให้เซลติก นาคามูระมีส่วนร่วมกับทีมทั้งสิ้น 166 นัด กับอีก 34 ประตู เคยคว้าเกียรติยศส่วนตัวทั้งผู้เล่นแห่งปีของม้าลายเขียวขาว นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีในสายตาแฟนบอล ตลอดจนกดฟรีคิกสั่งได้จนซิวลูกนิ่งยอดเยี่ยมมาแล้ว

ขณะเดียวกัน โอกาสลงสนามในลีกบ้านเกิด นาคามูระก็แสดงให้เห็นถึงฝีเท้ามหัศจรรย์อยู่ไม่แพ้กัน ไล่มาตั้งแต่การลงสนามให้โยโกฮามา เอฟ มารินอส ช่วงแรก (1997-2002) เจ้าตัวมีชื่อลงสนามมากถึง 178 เกม พาทีมคว้าแชมป์บอลถ้วยวายบีซี ลูวาน คัพ 1 สมัย ส่วนการกลับมาค้าแข้งกับทีมคำรบสองช่วงปี 2010-2016 จอมทัพเบอร์ 10 ก็มีส่วนสำเร็จพาทีมซิวเอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ 1 สมัย

หากนับผลงานส่วนตัวกับมารินอส นาคามูระเคยได้มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมเจลีก 3 สมัย ได้รางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปี 2 สมัยมาแล้ว และถ้ามามองตัวเลขที่เขาลงสนามในดินแดนบ้านเกิด จนถึงตอนนี้กับทีมจูบิโล อิวาตะ เจ้าตัวมีสถิติลงเล่นไปมากถึง 182 เกม พร้อมกับยิงได้ 33 ลูกและ 51 แอสซิสต์

8. เซโกะ นาราซากิ (อายุ 41 ปี)

อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติญี่ปุ่น ยังคงเดินหน้าสร้างสถิติเป็นนักเตะที่ลงเล่นในเกมเจลีก มากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลญี่ปุ่นต่อเนื่องเป็นฤดูกาลที่ 20 โดยในวัย 41 ปี เขาตัดสินใจประกาศต่อสัญญากับนาโงยา แกรมปัส ทีมที่อยู่ลงเฝ้าเสามาตั้งแต่ปี 1999 ออกไปอีก 1 ปี

สำหรับ เซโกะ ถือเป็นอีกหนึ่งตำนานในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น เมื่อทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ลงสนามมากที่สุดนับตั้งแต่มีการก่อตั้งลีกมาเมื่อปี 1992 ด้วยจำนวน 631 นัด นอกจากนี้จอมหนึบดีกรีซามูไรบลูชุดใหญ่ 77 นัด และยังเป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูเพียงคนเดียวที่สามารถคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม (MVP) เจลีก เมื่อปี 2010 อีกด้วย

9. มาซาชิ นาคายามะ (50 ปี)

อดีตกองหน้าทีมชาติญี่ปุ่นชุดลุยฟุตบอลโลก 1998 และ 2002 ยังคงไม่คิดอำลาเส้นทางการค้าแข้งของตัวเอง แม้ครั้งหนึ่งจะเคยตัดสินใจเลิกเล่นจากอาการเจ็บหัวเข่า ทว่าพอหายเจ็บกลับมา เขายังคงตัดสินใจโลดแล่นเกมลูกหนังต่อแม้จะเข้าสู่วัย 50 ปีเข้าไปแล้ว ซึ่งล่าสุดในซีซัน 2018 เจ้าตัวก็ยังคงเป็นสมาชิกของทีมอาซูล คลาโร นามาซุ ในดิวิชั่น 3 ของญี่ปุ่นต่อไปเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

นาคา ถือเป็นหัวหอกระดับตำนานของจูบิโล อิวาตะอย่างแท้จริง เพราะตลอดเวลาที่สวมเสื้อทัพนกกางเขนเป็นเวลา 15 ฤดูกาล เจ้าตัวเคยซิวทั้งนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของ เจลีก เมื่อปี 1998 เคยได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุด 2 สมัย และติดทีมยอดเยี่ยม เจลีก รวม 4 ครั้ง และพาจูบิโลซิวแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย (ปี 1999) และแชมป์ลีกมาแล้ว 3 สมัยด้วยกัน

10. คาซูโยชิ มิอูระ (50 ปี)

เจ้าของสถิตินักเตะอายุมากที่สุดที่ลงสนามในเจลีกด้วยวัย 50 ปีกับ 27 วัน เป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ทำประตูได้ในเกมแข่งขันระดับอาชีพ ด้วยวัย 50 ปีกับอีก 14 วัน จะยังคงมีลุ้นเป็นแข้งเก๋ารอสานสถิติลงสนามและยิงประตูไปอีกเรื่อยๆอย่างไม่ต้องสงสัย โดยขณะนี้เจ้าตัวตัดสินใจต่อสัญญาค้าแข้งกับโยโกฮามา เอฟซี ออกไปอีก 1 ปี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ตัวเขาจะอยู่โยงกับทีมออกไปเป็นฤดูกาลที่ 13 ติดต่อกัน

คิง คาซู เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพมาตั้งแต่ปี 1982 การจากตัดสินใจไปฝึกฟุตบอลที่บราซิล เมื่อตอนอายุ 15 ปี และเคยถูกสองทีมในยุโรปทั้งเจนัว (อิตาลี) และดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย) แสดงความสนใจดึงไปเสริมทีมแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทว่ากับผลงานในเจลีก เจ้าตัวอยู่ประสบความสำเร็จพาเวอร์ดี้ คาวาซากิ มากถึง 9 รายการ ส่วนกับโยโกฮามา ก็เคยคว้าแชมป์เจทูเมื่อปี 2006 มาแล้ว