เอเชีย ฟุตบอลญี่ปุ่น

TRIBE LIST : 10 บิ๊กดีลเจลีก 2018

ก่อนที่เกมการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดแดนอาทิตย์อุทัยอย่างศึกเจ1ลีก ประจำฤดูกาล 2018 จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ แต่ละทีมจัดหนักจัดเต็มเสริมกันเพื่อเตรียมตัวลุ้นแชมป์ทั้งบอลลีก ลุ้นทำอันดับไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชีย ตลอดจนเสริมแกร่งหาทางพาทีมรอดตกชั้น จนสามารถสร้างความฮือฮาให้กับแฟนบอลที่รอคอยการเสริมตัวนักเตะได้อย่างมาก และนี่คือ 10 บิ๊กดีลในตลาดซื้อขายนักเตะเลกแรกแห่งเวทีลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น

กด Next เพื่ออ่าน

1. อเลน สเตวาโนวิช (ปาติซาน เบลเกรด ไป โชลนัน เบลมาเร)

กองกลางลูกครึ่งเซอร์เบีย-สวิส เคยมีดีกรีเป็นนักเตะเยาวชนของอินเตอร์ มิลาน ก่อนจะมีโอกาสค้าแข้งให้กับสโมสรดังในลีกอิตาเลียนหลายทีม ไม่ว่าจะเป็น โตริโน, ปาร์แลโม หรือแม้แต่ บารี และยังเคยไปค้าแข้งในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์กับ โตรอนโต้ เอฟซี มาแล้ว ก่อนที่ตัวเขาจะตัดสินใจกลับมาเล่นในบ้านเกิดกับสโมสรยักษ์ใหญ่แดนเซิร์บอย่าง ปาติซาน เบลเกรด พาทีมซิวดับเบิ้ลแชมป์ทั้งบอลลีกและบอลถ้วยในซีซัน 2016-17 จากนั้นจึงตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมโชลนันเพื่อสู้ศึกฤดูกาล 2018

นอกจากโปรไฟล์ระดับสโมสรจะดูโดดเด่นแล้ว สเตวาโนวิชยังมีดีกรีติดทีมชาติเซอร์เบียไล่มาตั้งแต่ทีมเยาวชนชุด U18, U21 รวมถึงทีมชุดใหญ่จำนวน 3 นัดด้วยกัน

2. อัตสึโตะ อูจิตะ (ยูเนียน เบอร์ลิน ไป คาชิมา อันท์เลอร์ส)

หลังพาเหรดค้าแข้งในลีกเยอรมันมาเป็นเวลาเกือบ 8 ปี อดีตแบ็คขวาทีมชาติญี่ปุ่นตัดสินใจกลับมายังคาชิมา อันท์เลอร์ส ทีมที่ปลุกปั้นตัวเขาอีกครั้งในฤดูกาล 2018 นี้ สำหรับประสบการณ์ในต่างแดน โดยเฉพาะการลงเล่นให้กับชาลเก้ 04 อูจิดะฝากสถิติลงสนามให้ทีมมากถึง 153 เกม ยิงได้ 2 ประตูกับ 18 แอสซิสต์ จากนั้นเขาเลือกย้ายจากราชันสีน้ำเงินมาอยู่กับยูเนียน เบอร์ลิน ในฤดูกาล 2016-17 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ชาลเก้ กระทั่งเลือกกลับมาอยู่กวางเขาเหล็กคำรบสอง

3. อี จอง-ฮยอบ (ปูซาน ไอพาร์ค ไป โชลนัน เบลมาเร)

ศูนย์หน้าวัย 26 ปี เป็นอีกหนึ่งนักเตะชาวเกาหลีใต้ที่ตัดสินใจเลือกมาค้าแข้งในลีกบ้านใกล้เรือนเคียงที่ประเทศญี่ปุ่นกับสโมสรน้องใหม่ ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์เจทูซีซันก่อนอย่าง โชลนัน เบลมาเร สำหรับผลงานในเวทีเคลีก ลีมีโอกาสลงสนามให้กับสโมสรปูซาน ไอพาร์ค ที่ปลุกปั้นเขาขึ้นมาผ่านสถิติลงเล่น 54 เกม ทำได้ 13 ประตู ก่อนจะต้องเข้ารับราชการทหารจนไปอยู่กับเซียงจู ซังหมู่ ได้ลงเล่นไป 42 เกม ทำได้ 11 ลูก

จากนั้นเจ้าตัวย้ายมาเล่นให้อุลซาน ฮุนได และสานผลงานเด่นจนเริ่มมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ต่อเนื่องถึง 19 นัด (ทำ 5 ประตู) ก่อนจะหมดสัญญายืมกลับมายังปูซาน จนกระทั่งปี 2018 ที่ตัดสินใจย้ายมาเล่นกับโชลนัน

4. มิตช์ ลันเกรัค (เลบานเต้ ไป นาโงยา แกรมปัสต์)

อดีตลูกทีมเจอร์เกน คล็อปป์ สมัยโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สร้างความฮือฮาในตลาดนักเตะแดนอาทิตย์อุทัยหลังตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมวาฬเพชฌฆาต น้องใหม่หน้าเก่าในฤดูกาล 2018 นี้ โดยลันเกรัคพกทั้งประสบการณ์ลงเฝ้าเสาทั้งกับทีมชาติออสเตรเลียถึง 8 นัด อยู่ลงเฝ้าเสาทัพเสือเหลืองมากถึง 35 เกม ก่อนจะย้ายไปซบสตุ๊ตการ์ท และได้ลงเล่นไป 39 แมตช์ ก่อนตัดสินใจไปเลบานเต้เมื่อช่วงตลาดนักเตะรอบซัมเมอร์ปีที่แล้ว ทว่ากลับไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนามค้างคาวน้อย ก่อนตัดสินใจเลือกมาค้าแข้งในเจ1ลีกกับนาโงยา

5. ยอล อิล-ล็อค (เอฟซี โซล มา โยโกฮามา เอฟ มารินอส)

ปีกความเร็วสูงเจ้าของสถิติการติดทีมชาติเกาหลีใต้ไล่มาตั้งแต่ชุด U17, U20, U23 และชุดใหญ่ 8 เกม เลือกออกมาหาประสบการณ์ค้าแข้งใหม่บนแผ่นดินปลาดิบกับสโมสรโยโกฮามา หลังจากที่ตัวเขาประสบความสำเร็จมาไม่น้อยกับเอฟซี โซล สโมสรที่เขาเคยฝากผลงานลงสนามทั้งสิ้น 189 เกม กับ 31 ประตู คว้าแชมป์เคลีกร่วมกับทีมมาแล้ว 1 สมัย และแชมป์บอลถ้วยอีก 1 สมัย

6. โช (โครินเธียน ไป นาโงยา แกรมปัสต์)

หลังคว้าสิทธิ์ลงเตะเจ1ลีก 2018 อีกครั้ง นาโงยาไม่รีรอที่จะเสริมขุมกำลังมากประสบการณ์มาร่วมทีม หนึ่งในนั้นคือชื่อของ “โช” อดีตกองหน้าสังกัดแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สำหรับ โช อัลเวส ปัจจุบันอายุ 30 ปี เคยมีประสบการณ์ลงสนามให้ทีมในยุโรปหลายทีม ทั้งแมนฯซิตี้, เอฟเวอร์ตัน, ซีเอสเคเอ มอสโก และ กาลาตาซาราย

ทั้งยังเคยมีประสบการณ์ในลีกเอเชียมาแล้วกับทั้งอัล ชะบ๊าบ (ยูเออี) ในปี 2015-2016 จากนั้นย้ายไปร่วมทีมเจียงซู ซู่หนิง ในลีกจีนปี 2016 ก่อนเลือกกลับไปอยู่กับโครินเธียน จนคว้าแชมป์ลีกสูงสุดบราซิล ในปี 2017 กับผลงาน 32 นัด 18 ประตู กระทั่งก้าวมาเป็นสมาชิกใหม่ของวาฬเพชฌฆาต

7. โยชิโตะ โอคุโบะ (เอฟซี โตเกียว ไป คาวาซากิ ฟรอนทาเล)

เจ้าของรางวัลดาวยิงสูงสุดเจลีก (179 ประตู) สร้างความฮือฮาเมื่อจบศึกเจ1ลีก 2017 หลังตัดสินใจย้ายกลับมาค้าแข้งกับคาวาซากิ ฟรอนทาเล ทีมแชมป์ล่าสุดเป็นคำรบสอง หลังประสบอาการเจ็บ ไม่ได้ลงเล่นต่อเนื่อง ทำให้เขาไม่สามารถพาเอฟซี โตเกียว ทีมที่เพิ่งย้ายมาค้าแข้งเพียง 1 ปี ประสบความสำเร็จได้ (ลงเล่น 30 เกม ยิงได้ 9 ประตู พาทีมจบอันดับ 13)

สำหรับโอคุโบะ เคยผ่านการค้าแข้งกับคาวาซากิ มาเป็นเวลา 4 ฤดูกาล ตั้งแต่ปี 2013-2016 ฝากผลงานในสนามไปทั้งสิ้น 169 เกม ยิงไป 101 ประตู และยังเคยคว้ารางวัลดาวซัลโวเจลีกมาแล้วถึง 3 สมัยด้วยกัน

8. ธีราทร บุญมาทัน (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไป วิสเซล โกเบ)

เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ธีราทร บุญมาทัน อีกหนึ่งแบ็คซ้ายแถวหน้าของไทยได้เข้าไปเป็นสมาชิกใหม่ของ วิสเซิล โกเบ กลายเป็นนักเตะไทยคนที่สามต่อจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีรศิลป์ แดงดา ที่จะมีโอกาสลงเล่นในเวทีเจ1ลีก ซีซันหน้า โดย “อุ้ม” ได้เดินทางไปเปิดตัวร่วมกับสโมสรที่มีลูคัส โพดอลสกี อดีตแข้งอาร์เซนอลและทีมชาติเยอรมันอยู่ในทีมไปเรียบร้อยแล้ว และในขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเก็บตัวฝึกซ้อมกับทีม

ทั้งนี้ ธีราทร ถือเป็นแข้งระดับแถวหน้าของไทย เห็นได้จากประสบการณ์ที่เขาเคยคว้าแชมป์ไทยลีก 5 สมัย ช้างเอฟเอคัพ 4 สมัย ลีกคัพ 6 สมัย รวมถึงเคยได้โอกาสสวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติไทยมาแล้ว

9. มานาบุ ไซโต (โยโกฮามา เอฟ มารินอส ไป คาวาซากิ ฟรอนทาเล)

นับเป็นการย้ายทีมสุดฮือฮาประจำตลาดนักเตะญี่ปุ่น เพราะกองกลางวัย 27 ปีรายนี้ ตัดสินใจเก็บกระเป๋าออกจากโยโกฮามา ทีมที่สร้างเขาให้เติบโตในเส้นทางลูกหนังไปอยู่กับคู่ปรับร่วมลีกอย่างคาวาซากิ ฟรอนทาเล

สาเหตุสำคัญที่ทำให้แฟนบอลมารินอสเจ็บใจเหมือนโดนหักหลัง เพราะช่วงเดือนกันยายนปีก่อน ไซโตในฐานะกัปตันทีมต้องพักรักษาอาการเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่าขวาฉีกกว่าครึ่งปีในฤดูกาล 2017 และสโมสรเองก็ดูแลรักษาจนหายจากอาการบาดเจ็บ อีกทั้งแฟนบอลของทีมก็คอยให้กำลังใจกัปตันทีมรายนี้อยู่เสมอ ทว่าพอหายเจ้าตัวก็ดันย้ายทีมแบบช็อคแฟนบอล ส่งผลถึงขั้นแฟนบอลมารินอสกล่าวหาว่าแข้งวัย 27 กะรัตเป็นคนทรยศสโมสรที่เขาลงสนามมาไม่น้อยกว่า 220 เกม

10. ธีรศิลป์ แดงดา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไป ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา)

กองหน้าหมายเลข 1 ของไทย ตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งในต่างแดนอีกครั้งกับสโมสรซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ด้วยสัญญายืมตัว 1 ซีซัน ถือเป็นการย้ายไปหาประสบการณ์ในต่างแดนอีกครั้งของ “มุ้ย” หลังเคยโยกไปโลดแล่นในเวทียุโรปกับ กราสฮ็อปเปอร์ ในลีกสวิส และลาลีก้า กับทีมอูเด อัลเมเรีย

ภายใต้การลงสนามเกมอุ่นเครื่องอย่างเป็นทางการนัดแรก กองหน้าหมายเลข 31 เริ่มแสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณดาวยิงไปแล้ว หลังประเดิมยิงสองประตูในสีเสื้อทีมใหม่ แบ่งเป็นประตูชัยพาทีมบุกเฉือนต้นสังกัดเก่าอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในเกมอุ่นเครื่อง 1-0 รวมถึงซัดหนึ่งประตูในเกมอุ่นเครื่องที่ทีมชนะเวกัลตะ เซนได 5-1