เอเชีย ฟุตบอลญี่ปุ่น

คู่มือเชียร์อุ้ม : 6 เรื่องควรรู้ก่อนลัดฟ้าไปยังโกเบ

หลังจากที่วิสเซล โกเบ สโมสรในศึกเจ1ลีก ตัดสินใจดึงธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายซูเปอร์สตาร์ทีมชาติไทยไปเสริมทีมด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล ส่งผลให้แข้งทีมชาติไทยรายนี้กลายเป็นนักเตะจากแดนสยามบนลีกสูงสุดแดนปลาดิบรายที่สาม ต่อจาก ขนาธิป สรงกระสินธ์ รวมถึงธีรศิลป์ แดงดา และนี่คือ 6 ประเด็นสำคัญที่เหล่าแฟนบอลชาวไทยผู้ที่อยากเดินทางไปยังดินแดนอาทิตย์อุทัยเพื่อชมฝีเท้าของ “อุ้ม” ไม่ควรพลาด

กด Next หรือปัดหน้าจอไปทางซ้าย เพื่ออ่าน

 

สภาพทั่วไป สภาพภูมิอากาศ

โกเบถือเป็นเมืองเอกของจังหวัดเฮียวโงะ ทางทางฝั่งใต้ของเกาะฮอนชู เป็นเมืองท่าสำคัญและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของญี่ปุ่น สำหรับสภาพอากาศโดยรวมถือว่าอากาศดีตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี ราว 16-18 องศาเซลเซียส ช่วงฤดูร้อนมีอากาศร้อนชื้น ระหว่างเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม โดยมีอุณหภูมิราว 30-32.5 องศาเซลเซียส ส่วนฤดูหนาวจะมีอากาศเย็น อุหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 2-5 องศาเซลเซียส ในเดือนธันวาคม - มีนาคม

เรียกได้ว่าอากาศตลอดปีแทบไม่เป็นปัญหากับแฟนบอลชาวไทยที่อยากไปให้กำลังใจอุ้ม อย่างไรก็ดี ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม ฟุตบอลเจ1ลีกจะมีการพักเบรกเพื่อหลีกทางให้การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ก่อนจะกลับมาแข่งกันอีกครั้ง สำหรับโกเบจะมีโปรแกรมออกไปเยือนวีวาเรน นางาซากิวันที่ 18 กรกฎาคม

หลังจากนั้นเจ1ลีกยังคงอยู่ในช่วงหน้าร้อน ซึ่งแฟนบอลไทยอาจเตรียมเสื้อที่สวมใส่สบาย อากาศถ่ายเท รวมถึงดื่มน้ำให้เป็นประจำ ส่วนหน้าหนาวก็สวมเสื้อแขนยาว หรือกันหนาวอุ่นๆก็อยู่รอเชียร์แข้งเบอร์ 30 ในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซันได้แบบไร้กังวล

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางมายังนครโกเบ สามารถเดินทางได้จากทั้งจากรถไฟชินคังเซนจากกรุงโตเกียว ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงครึ่ง ค่าใช้จ่ายตกอยู่ที่ 15,000 เยน หรือ 4,365 บาท และยังมีรถโดยสารรถบัสกลางคืน ที่สามารถเลือกระดับความสบายของที่นั่ง ค่าใช้จ่ายจะอยู่ระหว่าง 3,000 เยน (ราว 873 บาท) ไปจนถึง 8,500 เยน หรือประมาณ 2,470 บาท ใช้เวลาเดินทางราว 8-9 ชั่วโมง

เนื่องจากโกเบอยู่ห่างจากโอซาการาวครึ่งชั่วโมง ส่งผลให้มีการจราจรระหว่างสองเมืองที่อำนวยความสะดวกสบายไม่น้อย อย่างการนั่งรถไฟของ Japan Railways (JR) จากสถานี Osaka ไปยังสถานี Sannomiya ของโกเบ จะใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น มีราคาอยู่ที่ 410 เยน หรือราว 120 บาท รวมถึงการต่อรถโดยสารจากสนามบินนานาชาติคันไซ ใช้เวลาเดินทาง 75 นาที ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,950 เยน (ประมาณ 567 บาท)

อีกหนึ่งความสะดวกสบายคือการโดยสารเครื่องบิน หากเลือกเดินทางจาก ฮาเนดะ ในโตเกียว ที่นี่มีบริษัทสายการบิน ANA ที่บินตรงมายังสนามบินโกเบทันที มีค่าใช้จ่ายประมาณ 23,000 เยน หรือราว 6,690 บาท และ Skymark Airlines ค่าใช้จ่ายประมาณ 14,000 เยน หรือตกที่ 4,070 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

ส่วนการเดินทางมายังสนามโนเอเวีย สเตเดียม สามารถนั่งรถไฟใต้ดินของเมืองได้เลย โดยมองหา ‘Kaigan Line’ หรือสายสีเขียว โดยตัวสนามจะอยู่ระหว่างสถานี Wadamisaki และ Misaki-Koen สำหรับสถานีแรกจะใช้เวลาเดินราว 500 เมตร ส่วนอีกสถานีใช้เวลาเดินประมาณ 600 เมตร

แหล่งท่องเที่ยว

เนื่องจากเป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศ มีประวัตศาสตร์มาเป็นเวลาหลายร้อยปี ทั้งยังมีความหลากหลายของเชื้อชาติและวัฒนธรรมของผู้คนที่มารวมกันอยู่ที่นี่ ทำให้โกเบจึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าหลงใหลมากมาย เริ่มกันที่ หอคอยแห่งโกเบ (Kobe Port Tower) ที่ใช้เวลาเดินราว 15 นาทีจากสถานี Motomachi หรือรถบัส City loop แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง มีรูปทรงเป็นอาคารชมวิวสีแดงสูง 108 เมตร มีทั้งหมด 5 ชั้น แบ่งช่วงเวลาการเปิดให้เข้าชมออกเป็นเดือนมีนาคม - พฤศจิกายน เวลา 09.00 น. - 21:00 น. ส่วนเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์จะเปิดให้ชมเวลา 09.00 น. - 19.00 น. โดยเก็บราคาเข้าชมผู้ใหญ่ 600 เยน หรือราว 170 บาท ส่วนเด็กเก็บค่าเข้าชม 300 เยน หรือประมาณ 90 บาท

ถัดจากหอคอยก็จะมี พิพิธภัณฑ์การเดินเรือ (Kobe maritime Museum) พิพิธภัณฑ์ที่เกียวกับการเรือเดินทะเลของเมืองโกเบที่เล่าถึงประวัติศาสตร์การเดินเรือของชาวญี่ปุ่น โดยเปิดทำการทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 17.00 น. ผู้ใหญ่เสียค่าเข้าชม 500 เยน หรือ 145 บาท ส่วนเด็กตกอยู่ที่ 250 เยน (ราว 70 บาท)

ขยับมายังแหล่งท่องเที่ยวที่ว่ากันว่าก่อสร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 201 อย่าง ศาลเจ้าอิคุตะ หรือ Ikuta Shrine เป็นศาลเจ้าที่มักจะมีชาวเมืองโกเบ ที่ว่ากันว่าถ้าใครมาขอพรเรื่องความรักก็จะสมหวัง สำหรับการเดินทาง ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพอดิบพอดี ให้เดินจากสถานี Sannomiya Station ประมาณ 10 นาที และไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ตลอดจนแหล่งช็อปปิ้งน่าสนใจอีกมากมาย อาทิ ย่านบ้านพักชาวต่างชาติ คิตะโนะ (Kitano Street Ijinkan), โกเบฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland), แหล่งช็อปชิมย่านซันโนะมิยะ, ไชนาทาวน์ประจำเมือง รวมถึง ปราสาทฮิเมะจิ หรือ Himeji Castle ที่ได้รับยกย่องจากยูเนสโก้ว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เป็นต้น

ของกิน

คงไม่มีใครปฏิเสธว่าของลิ้มลองขึ้นชื่อประจำเมืองคือเนื้อโกเบ หรือเนื้อที่มาจากวัวสายพันธุ์วากิว เป็นวัวที่มีเฉพาะในจังหวัดเฮียวโงะ และมีร้านน้อยใหญ่รอต้อนรับแฟนบอลกระจายอยู่ทั่วมุมเมือง เริ่มที่ร้าน Steak land ที่ตั้งอยู่ในย่านซันโนะมิยะ (นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Sannomiya จากนั้นเดินต่อประมาณ 2 นาที) โดยหนึ่งในไฮไลท์ของร้านคือเมนู “Kobe Beef Steakland 150g”เซ็ตอาหารกลางวันสเต็กเนื้อโกเบ สนนราคาอยู่ที่ 3,180 เยน (ประมาณ 925 บาท) เป็นต้น

นอกจากเนื้อโกเบจะขึ้นชื่อแล้ว โกเบยังมีสาเกฮาคุซุรุ (Hakutsuru) เป็นอีกหนึ่งของขึ้นชื่อที่ได้รับยกย่ิงว่าเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตสาเกที่ดีที่สุดในโลก มีพิพิธภัณฑ์โรงบ่มสาเกฮาคัทซุรุ (The Hakatsuru Sake Brewery Museum) ตั้งอยู่ในเขตนาดะ ใช้เวลาเดินจากสถานี Hanshin Sumiyoshi ประมาณ 5 นาที ก็จะพบกับสาเกหลากรสชวนให้ลิ้มลอง

ส่วนของกินใกล้สนามโนเอเวีย สเตเดียม จะมีร้านอาหารนานาชาติอยู่ในพื้นที่ อย่างร้าน Trattoria Sassa (อิตาเลียน) หรือ Neelam Indian Restaurant and Bar (ร้านอาหารอินเดีย) รวมถึง Tachigui Udon Misawa ร้านราเมนญี่ปุ่น และร้านเกี๊ยวซ่าชื่อดังอย่าง gyouzanoomiseenro

ที่พัก

เนื่องด้วยการสนามเหย้าของวิสเซล โกเบ อยู่ในย่านเขตเมืองที่คับคั่งไปด้วยผู้คน ทำให้มีแหล่งที่พักทั้งในรูปแบบโรงแรมหรือโฮสเทลอยู่หนาแน่น ไม่ว่าจะเป็น Hostel Anchorage โฮสเทลที่ใช้เวลาเดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้า Motomachi ซึ่งเป็นสายเดียวกับที่มุ่งตรงสู่สนามแข่งเพียง 5 นาที โดยมีราคา 2 ท่าน 1 คืนต่อ 1 ห้องอยู่เพียง 868 บาทเท่านั้น ต่อด้วย Kobe Capsule Hotel Seki (ห่างจากสนามแข่ง 5 กิโลเมตร) ตกราคา 2 คนต่อ 1 คืนที่ 1,151 บาท

ปิดท้ายที่ Guesthouse Kobe Nadeshikoya ที่ตั้งอยู่ห่างจากสนามแข่ง 3.9 กิโลเมตร ก็ใช้เวลาเดียวทางไปยังสถานี JR Motomachi เพียง 5 นาที มีเรตราคาห้องพัก 2 คนต่อ 1 คืนอยู่ที่ 2,199 บาท (ราคาอ้างอิงเทียบกับเกมการแข่งขันในบ้านนัดแรกจาก booking.com และ agoda.com อาจเปลี่ยนแปลงได้)

การซื้อตั๋วชมเกมการแข่งขัน

ปัจจุบันเจลีกเปิดให้แฟนบอลจับจองตั๋วชมเกมการแข่งขันผ่านทางเว็บไซต์ทางการเวอร์ชันภาษาอังกฤษอย่าง https://www.jleague.jp/en/ แล้วคลิกตรงคำว่า TICKETS โดยแฟนบอลสามารถตั๋วสามารถซื้อล่วงหน้าได้สามเกม แต่สามารถชำระราคาค่าตั๋วโดยการหักจากบัตรเครดิตได้เลย

สำหรับแฟนบอลชาวไทยที่จะเข้าให้กำลังใจอุ้มถึงสนามแข่งในเกมนัดที่ 2 และ 3 ของฤดูกาล ที่โกเบจะเปิดบ้านรับมือ ชิมิสุ เอสพัลส์ และวีวาเรน นางาซากิ คงต้องอดใจรอกับการซื้อตั๋วอีกสักนิด เพราะในขณะนี้ (8 กุมภาพันธ์) ระบบยังไม่เปิดให้จำหน่าย