“ช้างศึกยุทธหัตถี” เปิดตัวสโมสรอย่างเป็นทางการภายใต้สโลแกน One Team One Spirit เพื่อสู้ศึกโตโยต้าไทยลีกฤดูกาล 2018
เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม ที่ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1โรบินสัน สุพรรณบุรี สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมในศึกโตโยต้าไทยลีก แถลงข่าวเปิดตัวสโมสรอย่างเป็นทางการสำหรับฤดูกาล 2018
โดยภายในงานประกอบด้วย ผู้บริหารจาก สุพรรณบุรี เอฟซี อย่าง นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานสโมสร อเดบาโย กาเดโบ้ หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ ผู้สนับสนุน ประกอบด้วย เครื่องดื่มตราช้าง , วอริกซ์ รวมถึงสื่อมวลชนและแฟนคลับเข้าร่วมงานในครั้งนี้
รวมไปถึงทัพนักเตะ “ช้างศึกยุทธหัตถี” อย่าง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล , อดุล หละโสะ สุพรรณ ทองค์ ร่วมถึงนักต่างต่างชาติรายใหม่ที่คว้ามาร่วมทีม อาทิ ซิลวาโน กอมฟาลิอุส , อันแดร์สัน ดอส ซานโต๊ส , ทาคาฟูมิ อกาโฮชิ และ โรมูโล คาบราล สวมเสื้อชุดแข่งใหม่ทั้ง 3 สี ภายใต้แบรนด์ วอริกซ์ ได้แก่ สีดำ ซึ่งด้านในแฝงด้วยสีกรมท่าอันเป็นสีเอกลักษณ์ประจำทีมตรงหน้าอกเป็นลายมังกรคาดอกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง, ชุดเยือนมี 2 สี คือ สีขาว และ สีแดง
ด้าน “บิ๊กท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา ประธานสโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี เอฟซี กล่าวว่า “ปีนี้เราทำออกมา 3 สี สีกรมท่าเป็นสีเหย้า สีที่สองเป็นสีแดง และเสื้อแข่งที่สามเป็นสีขาว ถ้าถามถึงความหมายของสี คือสีของธงชาติ แดง ขาว น้ำเงิน และโทนสีก็จะใช้สีเดียวกับที่ใช้ในธงชาติ โดยเสื้อเหย้าจะเป็นเสื้อคอวี ตรงหน้าอกจะเป็นลายมังกรทั้งห้า ซึ่งเป็นมังกรสวรรค์ หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองสุพรรณบุรี ตัวเนื้อผ้าจะเป็นผ้าที่เบาที่สุดตั้งแต่สโมสรเคยผลิตมากับวอริกซ์ ด้านหลังจะเป็นผ้าตาข่ายชั้นดีที่จะระบายอากาศชั้นดี”
“ในขณะที่เสื้อสีแดง จะเป็นเสื้อที่มีปก วัสดุที่ทำปกจะเป็นผ้านิ่ม ลายปกด้านขวามือจะมีแถบธงชาติอยู่ ด้านหลังของปกจะมีการทอคำว่า สุพรรณบุรี ลงไป และจะมีสัญลักษณ์หอคอยทางแถบซ้ายของเสื้อ เสื้อตัวที่สามคล้ายกับเสื้อเหย้า แต่เป็นสีขาว จะมีลายมังกรสวรรค์เหมือนกัน โดยทั้งเสื้อเหย้าและเยือนนำมารวมกันจะเป็นลายมังกรคาดอกและลายหอคอย นำมาบวกกัน จะเป็นลายขวางกับลายไขว้ที่เป็นลูกศรแห่งชัยชนะของสุพรรณบุรี ที่เรามีอยู่ทุกปี ”
“เสื้อทั้งสามตัวทางวอริกซ์จะดูแลเอาใจใส่ทางการผลิตในการเลือกวัสดุที่ดีที่สุดมาผลิตให้ตั้งแต่ผลิตให้เรามา ส่วนระยะเวลาการออกแบบใช้เวลาอยู่พอสมควร เพราะการออกแบบมีความแตกต่างออกไป ด้วยความแต่ก่อนมีลูกศรอยู่บนเสื้อ เราอยากได้เป็นสัญลักษณ์ขึ้นมา อยากได้ความเรียบง่ายขึ้นแต่แฝงด้วยความหมายให้ลึกซึ้งมากขึ้น”
“ส่วนเรื่องทีมปีนี้เราจะไม่เน้นความหวือหวาในตัวผู้เล่น ตัวนักเตะต่างชาติเราเปลี่ยนใหม่หมด โดยที่นักเตะโควตาอาเซียนเรายังไม่มี ท้ายที่สุดมันก็ต้องมี แต่เราไม่รับปากว่าจะมีในตั้งแต่ต้นฤดูกาลหรือเลกสอง เพราะว่าตอนนี้เดทไลน์ยังไม่ถึง เราก็ต้องดูกันไปก่อน ส่วนผู้เล่นไทยมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย”
“เพราะเราเน้นเป็นทีมมากกว่า สโลแกนในปีนี้เราใช้ One Team One Spirit เราใช้ความรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ที่ผ่านมาเรามีผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์มา แต่ความเป็นทีมเราไม่ค่อยดี ปีนี้เราขอไม่เอาซูเปอร์สตาร์มา แต่ใช้ความเป็นทีมเวิร์คมากขึ้นและปีนี้เราไม่ได้ทำทีมบีแล้ว เราลองทำแล้วไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่เราคิดไว้ เราก็เลยโฟกัสทีมใหญ่ทีมเดียวทำให้มีการปล่อยตัวนักเตะไปพอสมควร” บิ๊กท็อป กล่าวปิดท้าย