เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ประเดิมฤดูกาลใหม่ได้ยอดเยี่ยมเมื่อถล่มเอาชนะซันนา คั้ญฮหว่า ไปด้วยสกอร์ 4-0 ในเกมนัดชิงชนะเลิศเกมที่สองศึกแม่โขงคลับ แชมเปี้ยนส์ชิพ จากผลงานการทำประตูของ อดิศักดิ์ ไกรษร, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, ธีรศิลป์ แดงดา และ สิโรจน์ ฉัตรทอง ที่ปลดล็อคประตูแรกในสีเสื้อกิเลนผยอง คว้าแชมป์ไปครอง และนี่คือ 5 ประเด็นน่าสนใจหลังเกมนี้
กด NEXT เพื่อร่วมติดตามไปกับเราได้เลย
ไร้เงานักเตะใหม่
ในขณะที่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มีแต่ข่าวว่าจะปล่อยนักเตะออกจากทีม โดยรายที่ยืนยันไปก่อนหน้านี้แล้วคือ ธีรศิลป์ แดงดา ที่จะย้ายไปเล่นในเจลีกตาม ชนาธิป สรงกระสินธ์ อีกคน เมื่อเปิดตัวกับ ซานเฟรชเช ฮิโรชิม่า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนในรายของ ธีราทร บุญมาทัน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะย้ายไปเล่นในเจลีกอีกคนกับ วิสเซิล โกเบ รวมไปถึงนักเตะคนอื่นๆที่มีข่าวว่าอาจจะย้ายทีม
แต่ 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมกับซันนา คั้ญฮหว่า ของ ธชตวัน ศรีปาน ในเกมนี้ยังไม่มีนักเตะหน้าใหม่ทั้งในรายของตัวจริงและตัวสำรอง จะมีก็แต่ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ที่ย้ายมาจากเทโร แต่ก็คงจะพูดว่าเขาเป็นนักเตะใหม่ก็ไม่เชิง เพราะก่อนหน้านี้เขาคืออดีตนักเตะกิเลนผยองก่อนย้ายไปเทโร ทำให้ตอนนี้แฟนๆยังต้องเฝ้ารอจะเห็นนักเตะรายใหม่ลงสนามช่วยทีมต่อไป
ทีมจากไทยยังเป็นจ้าวของรายการนี้
นับตั้งแต่มีทีมจากไทย เข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอล แม่โขงคลับ แชมเปี้ยนส์ชิพ ก็ไม่เคยมีสโมสรจากประเทศเพื่อนบ้านคว้าแชมป์รายการนี้ได้อีกเลย โดยแชมป์ครั้งตกเป็นของ บีคาเม็กซ์ บินห์เยือง จากเวียดนาม เพราะไม่มีทีมจากประเทศไทยลงแข่งขันด้วย
และเมื่อ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ถล่มเอาชนะ ซันนา คั้ญฮหว่า ไปด้วยสกอร์ขาดลอย 7-1 เมื่อรวมผลสองนัดทำให้ ตัวแทนจากไทย ยังคงเป็นจ้าวแห่งลุ่มแม่น้ำโขงต่อเนื่องไปอีก 1 ปี ซึ่งเมืองทอง จะเป็นสโมสรที่สองของไทยที่สามารถคว้าแชมป์ถ้วยใบนี้มาครองได้ต่อจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
มองหาความหวังใหม่ในแนวรุก
กลางฤดูกาลที่ผ่านมา กิเลนผยองจะต้องเสีย กำลังสำคัญในแนวรุกอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เลือกออกไปหาความท้าทายใหม่ๆในเจลีก และทำให้มีเพื่อนร่วมทีมตามออกไปติดๆอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งในรายหลังถือว่าเป็นหัวใจในแนวรุกของกิเลนผยองมาอย่างยาวนาน แม้จะมีช่วงที่ย้ายไปเล่นในลาลีก้า กับอัลเมเรีย
แต่ช่วงที่เขาอยู่กับทีม เกมรุกของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังคงไว้ใจได้เสมอ เพราะฉะนั้นการเสียขุนพลตัวหลักไปทำให้ทีมของโค้ชแบนจะต้องมองหานักเตะแกนหลักในแนวรุกของตัวเองขึ้นมาใหม่ โดยอาจจะใช้ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส เป็นหัวใจหลัก และอดิศักดิ์ ไกรษร ที่น่าจะได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองมากขึ้น เมื่อไร้เงาของรุ่นพี่อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา รวมไปถึง เจนรบ สำเภาดี และ สิโรจน์ ฉัตรทอง ที่จะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อแย่งตำแหน่งของตัวเอง
ประตูที่รอคอยของสิโรจน์
ในฤดูกาลที่ผ่านมา 488 นาทีในลีก ที่สิโรจน์ ฉัตรทอง หัวหอกดีกรีทีมชาติไทย ที่ย้ายจาก อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด มาอยู่กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ช่วงกลางฤดูกาล ไม่สามารถยิงประตูให้กับทีมได้เลย แต่ก็ยังทำประตูได้จากลูกจุดโทษในเกมอุ่นเครื่องกับ อีสเทิร์น เอสซี จากฮ่องกง อย่างไรก็ตามผลงานการถล่มประตูของ ปีโป้ ค่อนข้างน่าผิดหวัง ทำให้ถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่ในเกมกับ ซันนา คั้ญฮหว่า เมื่อได้รับโอกาสจาก กุนซือให้ลงสนามมาในช่วงท้ายเกม ก็ใช้เวลาแค่ 10 นาทีในการปลดล็อคประตูแรกจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ให้กิเลนผยองจนได้ น่าจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจของเขาให้มากขึ้นก่อนที่ฤดูกาลจะเปิดฉากขึ้น
งานของธีรศิลป์ยังไม่เสร็จ
แม้ว่าจะเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับ ซานเฟรชเช ฮิโรชิม่า เป็นที่เรียบร้อย และหลังจบเกมนี้ ธีรศิลป์ แดงดา ก็ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์รายการ แม่โขง คลับ แชมป์เปี้ยนส์ชิพ มาครองได้ ดูเหมือนจะเป็นการส่งท้ายที่สวยงาม แต่ว่างานของ ดาวยิงเบอร์หนึ่งทีมชาติไทย กับต้นสังกัดปัจจุบันอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังไม่จบเพราะเจ้าตัวยืนยันว่าจะขออยู่ช่วยกิเลนผยองลงเล่นในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบคัดเลือกก่อน แล้วค่อยเดินทางไปไล่ล่าฝันที่ญี่ปุ่น โดยมีโปรแกรมพบกับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ในวันที่ 23 มกราคมนี้ เพื่อหาผู้ชนะไปพบกับ คาชิวา เรย์โซล ซึ่งก็ถือว่างานของเขายังไม่เสร็จเรียบร้อยดี