จบไปแล้วกับการแข่งขันฟุตบอลเจลีกทั้ง 3 ลีก เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ในส่วนของแชมป์เจลีกนั้นเป็นของคาวาซากิ ฟรอนตาเล ที่เก็บชันในนัดสุดท้าย พลิกแซงขึ้นมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้สำเร็จในปีนี้ สมกับที่รอคอยถึง 62 ปี
ส่วนในศึกเจ3ลีกนั้น แชมป์ตกเป็นของ เบลาบลิทซ์ อาคิตะ ที่จะเลื่อนชั้นขึ้นมาใน เจ2ลีกในปีหน้า ซึ่งในเกมในนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่มีการฟาดแข้งพร้อมกันทุกคู่นั้น ได้เกิดประตูสำคัญของจักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ วิงแบ็คชาวไทย แมตช์ที่เอฟซี โตเกียว U23 เอาชนะ เซเรโซ โอซาก้า U23 ไป 2-1 กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับฟุตบอลเจลีก ที่มีนักฟุตบอลไทยบวกสกอร์ในลีกญี่ปุ่นได้สำเร็จ ก่อนที่จะตามมาสมทบกับทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เพื่อทำการแข่งขันฟุตบอลรายการ M-150 Cup ระกว่างวันที 9-15 ธันวาคม ที่สนามไอโมบาย สเตเดียม จังหวัดบุรีรัมย์
ทีมงานฟุตบอลไทรบ์ ไทยแลนด์ เลยได้โอกาสพูดคุยกับ เจ้าไอซ์ กับการไปค้าแข้งที่ญี่ปุ่นมาเกือบครึ่งปี จนสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการฟุตบอลญี่ปุ่น รวมไปถึง การร่วมงานในทีมชาติครั้งนี้
ช่วยตัดเกรดผลงานที่ผ่านมาของเราหน่อยเต็ม 10 ให้เท่าไหร่?
JW52 : ผมให้แค่ 7 ผมคิดว่ามีบางอย่างที่ตัวผมยังไม่ดีพอต้องกลับมาแก้ไขอีก และต้องเรียนรู้เพิ่มเติมด้วย
ตอนนี้เริ่มมีคนจับตามองเรามากขึ้นแล้ว รู้สึกยังไง?
JW52 : ผมก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมนะ เป็นคนบ้านๆ ง่ายๆชิวๆ ใครทักมาคุยกับผม ผมก็ตอบเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ชีวิตผมเป็นคนเดินดินมาก่อน ต่อให้ผมดังแค่ไหน ผมก็ยังเป็นคนเดิม ที่ทุกคนรู้จัก
เท่าที่สังเกต ที่ญี่ปุ่นเขาจะมีการให้เน้นเกมรับด้วยไม่ใช่รุกอย่างเดียว?
JW52 : เขาฝึกให้ถนัดทั้งสองแบบ สมมติถ้าเราเล่นกองรุกเก่งแล้ว ลองมาเล่นเกมรับบ้าง ถ้าเล่นไม่ได้ ก็ต้องถูกจับไปฝึก และฝึกแยกเลยนะ บอกเน้นเป็นจังหวะเลยว่าควรเล่นยังไง จนกว่าเราจะเล่นได้
การปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีมที่โตเกียวเป็นยังไงบ้าง?
JW52 : เรื่องการปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีมก็ถือว่าสนิทนะ เขาคอยให้คำแนะนำกับเราตลอดว่าควรทำยังไง และเป็นกันเอง ชอบแกล้ง ชอบแหย่เราตลอด
คนที่อยากเห็นความสำเร็จเรามากที่สุดคือพ่อของเราที่เสียไปก่อนที่จะได้ไปเล่นที่ญี่ปุ่น อยากจะบอกอะไรพ่อไหม?
JW52 : อยากบอกพ่อว่า ที่ผมพยายามและไปอยู่ที่ญี่ปุ่นคนเดียว ผมอยากรับเลยว่าผมเหงามาก ผมมาจุดๆนี้ได้เพราะพ่อ ตั้งแต่เด็กจนโต ถ้าไม่มีพ่อและแม่คอยสนับสนุน ผมไม่ได้มายืนจุดนี้ได้ ผมอยากยกเครดิตที่ผมได้ไปญี่ปุ่นและคำชมที่ทุกคนชมผมให้พ่อผมหมดเลย
มีชื่อติดชุด U23 ครั้งแรกเพื่อลุย M-150 Cup มีการเตรียมตัวหรือแนะนำเพื่อนร่วมทีมยังไง?
JW52: การเตรียมตัวในชาติชุดนี้ ก็เป็นเรื่องสภาพร่างกายที่เตรียมตัวไว้ สภาพจิตใจ แนะนำได้แค่บางอย่าง เพราะเราก็ยังเด็กอยู่ด้วย และนักเตะส่วนใหญ่ก็เป็นรุ่นพี่เราทั้งหมด ก็ต้องขึ้นอยู่กับโค้ชจะมีการวางแท็กติดยังไงในแต่ละเกมที่ลงแข่ง
ร่วมงานกับโค้ชโซรน ยานโควิช ครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?
JW52 : การร่วมงานกับเขาก็รู้สึกดีนะครับ เป็นกันเอง แต่เขาก็มีแนะนำให้เราเข้ากับระบบเพราะที่ญี่ปุ่นเขาเล่นหลังสาม แต่ที่นี่เล่นหลังสี่ ก็ต้องมีแนะนำว่าจะควรเติมยังไง
