TRIBE RECAPS : บทสรุปทำเนียบแชมป์ลีกโซนเอเชียตะวันออก 2017

เบนฟิกา มาเก๊า - พรีเมียร์ลา ดิวิเซา (มาเก๊า)

โอกาสคว้าแชมป์ของสโมสรพันธมิตรจากยอดทีมของโปรตุเกสในฤดูกาล 2017 นั้นมีอะไรให้ตื่นเต้นมาจนเกมนัดสุดท้ายของซีซัน เพราะนอกจากจะต้องยืนยันถึงการเก็บ 3 แต้มในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล เบนฟิกายังต้องมาลุ้นให้ทีมอันดับ 2 และ 3 อย่าง มอนเต คาร์โล และ ซีพีเค สะดุดในเกมสุดท้าย ก่อนจะเดินทางตามเส้นทางของตัวเกมด้วยคว้าชัยเหนือคู่แข่ง เก็บ 47 คะแนนจาก 18 เกม การันตีผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน

ต้าถง เอฟซี - ไต้หวัน เอนเตอร์ไพร์ส ลีก (ไต้หวัน)

แม้อันดับในบนตารางคะแนนลีกของต้าถง หรือชื่อเดิมคือ ไทเป ซิตี้ ประจำฤดูกาล 2017 ที่เพิ่งรูดม่านปิดไปจะจบด้วยอันดับสอง ทว่าเมื่อผ่านเข้ามาเล่นในเกมเพลย์ออฟหาแชมป์กับแชมป์ฤดูกาลปกติอย่าง ไทพาวเวอร์ ต้าถงมากุมความได้เปรียบก่อนในเกมแรกจากการบุกไปยิงอเวย์โกลที่บ้านไทพาวเวอร์ ด้วยสกอร์เสมอกัน 1-1 ก่อนจะมายันอยู่ในบ้านของตัวเอง 0-0 คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นสมัยที่ 5 ในประวัติศาสตร์สโมสร นับตั้งแต่ที่ก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 48 ปี

เออร์ชิม เอฟซี - มองโกเลียน พรีเมียร์ลีก (มองโกเลีย)

เรียกได้ว่าเป็นสโมสรที่ผูกขาดกับการคว้าแชมป์ลีกมองโกเลียตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพราะก่อนจะเข้าสู่ฤดูกาล 2017 เออร์ชิม เอฟซี เคยประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้มากถึง 4 จาก 5 สมัย ซึ่งซีซันล่าสุดที่เพิ่งจบไป สถานการณ์ช่วงโค้งสุดท้ายคือพวกเขาต้องโฟกัสผลงานของตัวเอง โดยเฉพาะในเกมนัดรองสุดท้ายที่หากเก็บสามแต้มได้จะการันตีแชมป์ลีกทันทีโดยไม่ต้องสนใจอันดันสองอย่างอูลานบาตอร์ ซิตี้ที่มีแต้มห่างกัน 4 คะแนน ซึ่งท้ายสุดแล้วพวกเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลตัวเองผิดหวัง เมื่อบุกไปเฉือนอูลานบาตอร์ อีกหนึ่งทีมจากเมืองหลวงได้ 1-0

ลาว โตโยต้า เอฟซี - ลาว พรีเมียร์ลีก (ลาว)

หลังจากที่ล้านช้าง ยูไนเต็ด แชมป์ฤดูกาล 2016 ประกาศถอนการแข่งขันทุกรายการในปี 2017 ส่งผลให้การผูกขาดแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศลาวกลับมาอยู่ในมือของลาว โตโยต้า อีกครั้ง และสุดท้ายก็เป็นไปตามนัด เพราะยอดทีมแห่งเวียงจันทน์เดินหน้าโกยแต้มทิ้งอันดับสองอย่างโปลิศ ลาว แบบไม่เห็นฝุ่นถึง 8 คะแนน และถือเป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์

เบิงเกต อังกอร์ - Metfone กัมพูชาลีก (กัมพูชา)

เรียกได้ว่าเป็นการป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดได้อีกสมัย สำหรับสโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่างเบิงเกต อังกอร์ และถือเป็นการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่สาม สำหรับอันดับตารางคะแนนในซีซันนี้ เบิงเกตทำแต้มได้ 48 คะแนน จาก 22 เกม ทิ้งอันดังสองอย่างสวายเรียง 2 คะแนน

และแม้พวกเขาจะไม่มี จัน วัฒนากา กองหน้าตัวเก่งที่ย้ายไปเล่นให้ฟูจิเอดะ เอ็มวายเอฟซี แต่ก็ยังมี ซามูเอล อาจายี รวมถึง เมย์คอน คาลิจูรี กองหน้าชาวบราซิลอดีตนักเตะเชียงใหม่ เอฟซี และลำปาง เอฟซีคอยล่าตาข่าย ซึ่งในรายของเมย์คอนกดไปถึง 6 ประตูนำเป็นดาวซัลโวของลีกในอันดับ 4

อัลบิเร็กซ์ นีงาตะ สิงคโปร์ - เกรท อีสเทิร์น ฮุนได เอสลีก (สิงคโปร์)

สโมสรเครือข่ายของทีมบ๊วยในศึกเจ1ลีก 2017 มีแต้มนำห่างทีมอันดับ 2 อย่าง แทมปิเนสต์ โรเวอร์ส มากถึง 8 แต้ม ส่งผลให้การลุ้นแชมป์เอสลีกสมัยที่สองติดต่อกัน กลายเป็นความสำเร็จที่พวกเขาทำได้ นับตั้งแต่ที่ส่งทีมมาเล่นในแดนลอดช่องปีนี้เป็นปีที่ 13 อีกทั้งความสำเร็จนี้ยังเกิดจากฟอร์มที่ร้อนแรงของสึบาสะ ซาโนะ ดาวซัลโวของลีกที่ 26 ประตูอีกด้วย

ฉาน ยูไนเต็ด - เมียนมา เนชันแนลลีก (เมียนมา)

ถือเป็นการคว้าแชมป์ลีกหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรสำหรับ ฉาน ยูไนเต็ด ที่ปาดหน้ายอดทีมร่วมลีกทั้งยานาร์ดาบอน, ย่างกุ้ง ยูไนเต็ด ตลอดจนอิรวดี ยูไนเต็ด จากผลงานเก็บ 54 คะแนนจาก 22 เกม พร้อมพ่วงสถิติเสียประตูน้อยสุดในลีกเพียง 8 ลูกเท่านั้น และนอกจากจะคว้าแชมป์ลีก พร้อมคว้าสิทธิ์ลงเตะเอเอฟซี คัพ รอบแบ่งกลุ่มแน่นอนแล้ว นักรบฉาน วอร์ริเออร์ส ยังไปไกลถึงการคว้าแชมป์บอลถ้วยในประเทศอย่าง “General Aung San Shield” มาครองได้อีกด้วย

กวาง นัม - โตโยต้า วีลีก 1 (เวียดนาม)

ลีกสูงสุดแดนดาวทองปีนี้สนุกถึงขั้นต้องมาลุ้นแชมป์กันในเกมนัดส่งท้าย เพราะทั้งกวาง นัม และเอฟแอลซี ทันห์ เฮาห์มีแต้มเท่ากันที่ 45 แต้ม กระทั่งจบเกมนัดส่งท้ายไป ทั้งสองทีมต่างก็เก็บชัยชนะด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ต้องมาตัดสินกันที่เฮดทูเฮด ซึ่งสุดท้ายแล้วเป็นกวาง นัม ที่เบียดซิวแชมป์ลีกจากการเจอกันสองนัดด้วยชัยชนะด้วยประตูรวม 4-3 อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับหมดสิทธิ์ลงเตะเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ เพราะไม่ได้รับใบอนุญาตเข้าร่วมแข่งขัน หรือ คลับ ไลเซนซิง ส่งผลให้สิทธิ์ดังกล่าวตกไปถึงทันห์ เฮาห์ แทน

ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม - ลีกา ซูเปอร์ มาเลเซีย (มาเลเซีย)

เสือร้ายแห่งแหลมมลายูยังคงไว้ลายความเป็นยักษ์ใหญ่แห่งลีกแดนเสือเหลือง หลังเดินหน้าเก็บคะแนนซิวแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันจากผลงาน 22 นัด 49 คะแนน ทิ้งทีมอันดับสองอย่าง ปะหัง แบบไม่เห็นฝุ่นถึง 9 แต้ม ทั้งยังคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยมาเลเซีย คัพ (เทียบเท่ากับลีกคัพ) ได้ในรอบ 26 ปีอีกด้วย

บายังคารา เอฟซี - GO-JEK ทราเวลโลก้า ลีก้า 1 (อินโดนีเซีย)

ทันทีที่วงการลูกหนังแดนอิเหนาพ้นโทษแบนจากฟีฟ่า ส่งผลให้เกมลีกสูงสุดกลับมาลงทำการแข่งขันได้อีกครั้งในปี 2017 นี้ และความสนุก ลุ้นแย่งแชมป์ประจำฤดูกาลดำเนินความมันมาจนช่วงโค้งสุดท้าย และเป็น บายังคารา เอฟซี ทีมจากเกาะชวาตะวันตกที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกได้เป็นหนแรก ทั้งยังได้ อิลลิยา สปาโซเยวิช หัวหอกมอนเตรเนโกรที่ถือพาสปอร์ตแดนอิเหนาจนมีชื่อติดทีมชาติอินโดนีเซียไปแล้วเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกจากผลงานยิงให้ทีม 13 ประตู

อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับเผชิญกับปัญหาในการก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพเฉกเช่นกับหลายทีมร่วมทวีปสำหรับการลงเตะฟุตบอลเอเชีย เมื่อต้องมาพลาดสิทธิ์ไปเล่นเอซีแอลเพราะเรื่องคลับไลเซนซิ่ง ก่อนจะเป็นรองแชมป์ลีกอย่าง บาหลี ยูไนเต็ด ที่ได้สิทธิ์นี้ไปแทน

ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส - เคลีก คลาสสิค (เกาหลีใต้)

ฟุตบอลลีกแดนกิมจิเป็นลีกที่แชมป์ถูกตัดสินก่อนเกมนัดสุดท้าย โดยความสำเร็จหนนี้ยังคงเป็นชุนบุค ที่ทวงความสำเร็จกลับมาได้อีกครั้ง และนับเป็นการคว้าแชมป์เคลีกสมัยที่ 5 หลังจากที่ฤดูกาลก่อนพวกเขาดันไปเสียแชมป์ให้ เอฟซี โซล ซึ่งจากตารางคะแนนในเวทีเคลีก 2017 พวกเขาเก็บได้ถึง 75 คะแนนจาก 38 เกม ทิ้งห่างเจจู ยูไนเต็ด อันดับสองอยู่ถึง 9 แต้ม นอกจากนี้ อี ดอง กุ๊ก กองหน้าจอมเก๋าของทีมยังขึ้นแท่นเป็นนักเตะคนแรกที่ทำ 200 ประตูในศึกเคลีก คลาสสิคอีกด้วย

กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ - ผิง อัน ไชนีส ซูเปอร์ลีก (จีน)

แม้ว่าขุมกำลังนักเตะต่างชาติของทีมจะดูมีชื่อชั้นด้อยกว่าหลายสโมสรร่วมลีก ทว่าจากความแข็งแกร่งของผู้เล่นชาวจีนที่ค่อนข้างเหนือกว่าทีมร่วมลีก ที่ต่างก็เล่นเข้าขารู้ใจร่วมกับเหล่านักเตะต่างชาติ โดยเฉพาะริคาร์โด้ กูลาร์ต แนวรุกแซมบ้าที่กดได้ถึง 20 ประตู ส่งผลให้กวางโจวยังคงรักษาแชมป์ลีกสูงสุดแดนมังกรได้เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน โดยในฤดูกาล 2017 นี้ พวกเขาเก็บแต้มได้เท่ากับปีก่อนที่ 64 คะแนนจาก 30 เกม ส่วนที่สองปีนี้เป็น เซียงไฮ้ เอสไอพีจี ที่มี 58 คะแนน

คาวาซากิ ฟรอนทาเล - เมจิ ยาสุดะ เจ1ลีก (ญี่ปุ่น)

นับเป็นปีทองของฟรอนทาเลอย่างแท้จริง สำหรับความสำเร็จคว้าแชมป์เจ1ลีกได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังจากต้องรอคอยมานานกว่า 62 ปี โดยจุดเริ่มต้นของความสำเร็จนี้ มาจากการที่พวกเขาเดินหน้าเก็บแต้มในช่วงเลกสองชนิดที่พ่ายเพียงนัดเดียวต่อจูบิโล อิวาตะ โดยรวมแล้วคือไม่แพ้ใครในลีก 15 เกมติดต่อกัน ในขณะที่ทีมลุ้นแย่งแชมป์ช่วงก่อนหน้าทั้งเซเรโซ โอซากา, คาชิวา เรย์โซล รวมทั้งโยโกฮามา เอฟ มารินอส ค่อยๆสะดุดจนเหลือเพียงคาชิมา อันท์เลอร์ส

และในเกมตัดสินแชมป์นัดสุดท้าย เป็นฟรอนทาเลที่ปาดหน้าซิวแชมป์ลีกจากชนะชัยเหนือโอมิยะ อาดิจา ท่วมท้น 5-0 เหนือกวางเขาเหล็กซึ่งสะดุดเจ๊าจูบิโล อิวาตะ แม้จะมีคะแนนเท่ากัน (72 คะแนน) แต่ฟรอนทาเลมีผลต่างประตูได้เสียดีกว่า

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - โตโยต้า ไทยลีก (ไทย)

ปราสาทสายฟ้าเดินหน้าซิวแชมป์ลีกสูงสุดของไทยตั้งแต่เกมนัดที่ 32 ของฤดูกาล หลังเปิดรังถล่มโปลิศ เทโร ขาดลอย 4 และถือเป็นการจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการเป็นสโมสรแรกที่คว้าแชมป์ไทยลีก มาครองได้ถึง 5 สมัย แซงหน้าเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เคยเป็นแชมป์ 4 สมัย นอกจากนี้ ยอดทีมจากแดนอีสานใต้ยังทุบสถิติทีมที่เก็บแต้มได้มากสุดในลีกที่ 86 คะแนน ซึ่งเป็นการทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้เมื่อฤดูกาล 2011 ที่ 85 คะแนนอีกด้วย

บีโอซี ไลฟ์ ฮ่องกง พรีเมียร์ลีก (ฮ่องกง) - เริ่มฤดูกาลใหม่แล้ว

ลีกฮ่องกงเป็นลีกเดียวในย่านเอเชียตะวันออกที่ยึดรูปแบบการแข่งขันตามแบบยุโรป ซึ่งหากนับจากช่วงปัจจุบัน คือเดือนธันวาคม พวกเขาเพิ่งลงแข่งในเกมเลกแรกของฤดูกาลเท่านั้น และหลังจากที่ผ่านมาแล้ว 8 นัด เป็นคิตฉี แชมป์ลีกจากฤดูกาลก่อนที่ยังคงเดินหน้าลุ้นกอบโกยความสำเร็จอีกปี หลังรั้งตำแหน่งจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ (ลงแข่ง 8 นัดมี 22 คะแนน) โดยมียักษ์ร่วมลีกอย่าง ฮ่องกง เปกาซัส ทำแต้มมาติดๆที่ 19 คะแนน

ฟิลิปปินส์ ฟุตบอลลีก (ฟิลิปปินส์) - ยังแข่งไม่จบ

เหลือการแข่งขันในรอบไฟนอลเท่านั้น สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์ลีกสูงสุดแดนตากาล็อต และจะเป็นการห้ำหั่นกันระหว่างเซเรส-ลา ซาลล์ และ โกลบอล เอฟซี ในเกมนัดชี้ชะตา ในขณะที่ทีมจบอันดับตารางคะแนนปกติอย่าง เมรัลโก มะนิลา ดันไปพลาดท่าพ่ายต่อโกลบอลในเกมรอบรองชนะเลิศ 2-3 โดยการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ จะลงเตะกันในวันที่ 16 ธันวาคมนี้