ฟุตบอลทีมชาติ ฟุตบอลโลก

THINGS TO KNOW : รวมเรื่องน่ารู้หลังจับฉลากแบ่งสายบอลโลก

หลังทราบผลการแบ่งสายฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียไปแล้วเมื่อช่วงดึกของคืนวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา จะเห็นว่าแต่ละสายมีความยากง่ายปะปนกันไป ซึ่งหลังการจับสลากแบ่งสายได้เกิดประเด็นที่น่าสนใจหลายประเด็นให้ร่วมติดตามก่อนทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจะอุบัติขึ้นกลางปีหน้า และนี่คือรวมเรื่องน่ารู้หลังจับฉลากแบ่งสายบอลโลก

กด Next หรือปัดหน้าจอไปทางขวา(ในโทรศัพท์) เพื่ออ่านหน้าต่อไป

กลุ่มเอ

- ซาอุดิอาระเบียคือทีมเอเชียทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้เล่นนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก โดยพลพรรคเหยี่ยวมรกตผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกในครั้งนี้เป็นสมัยที่ 5

- เป็นการดวลกันของ 4 ทีมจากต่างทวีป ประกอบด้วย รัสเซีย (ยุโรป), ซาอุดิอาระเบีย(เอเชีย), อียิปต์ (แอฟริกา) และอุรุกวัย (อเมริกาใต้)

- กลุ่มนี้มีรัสเซียและซาอุดิอาระเบียที่เป็นทีมอันดับฟีฟาแรงกิ้งต่ำสุด เจ้าภาพรั้งอยู่อันดับที่ 65 ของโลก ซึ่งนับเป็นทีมที่มีอันดับต่ำสุดในบรรดา 32 ทีม ส่วนทีมฉายาเหยี่ยวมรกตเป็นทีมคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งต่ำรองลงมาที่ 63 ของโลก

 

กลุ่มบี

- คาร์ลอส เคยรอช จะมีโอกาสเจอกับอดีตลูกทีมในแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างคริสเตียโน โรนัลโด้อีกครั้ง หลังอิหร่านมีถูกจับให้มาอยู่ในสายบีร่วมกับโปรตุเกส

- โมร็อคโคเคยลงเล่นในเวิลด์คัพรอบสุดท้ายมาแล้ว 13 นัดจากการลงเตะช่วงก่อนหน้านี้ 4 สมัย ซึ่งจำนวน 13 เกมพวกเขาชนะคู่แข่งได้เพียง 2 เกม แต่ 1 ใน 2 เกมเป็นการชนะโปรตุเกส 3-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อปี 1986

- คริสเตียโน โรนัลโด้ จะได้ลงดวลแข้งกับทั้งเพื่อนร่วมทีมเรอัล มาดริดอย่างเซร์คิโอ รามอส รวมถึงกองหลังคู่แข่งจากบาร์เซโลนาอย่างเคราร์ด ปิเก้ หลังโปรตุเกสถูกจับมาอยู่สายเดียวกับสเปน

กลุ่มซี

- เดนมาร์กเคยเขี่ยฝรั่งเศส ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลก 1998 กระเด็นตกรอบแรกในเวิลด์คัพบนผืนแผ่นดินเอเชียปี 2002 ในเกมนัดสุดท้ายของกลุ่มเอ ด้วยสกอร์ 2-0

- เปรูเคยดวลแข้งกับฝรั่งเศสในเกมระดับนานาชาติเพียงครั้งเดียวในฟุตบอลโลกปี 1982

 

กลุ่มดี

- ไนจีเรียดวลแข้งกับอาร์เจนตินาในรอบแบ่งกลุ่ม รอบสุดท้ายมาแล้ว 5 จาก 6 ครั้งที่พวกเขาผ่านเข้ามาเล่นในบอลโลก คือในปี 1994, 2002, 2010, 2014 และ 2018

- ไอซ์แลนด์กับโครเอเชียเคยอยู่สายเดียวกันในการแข่งรอบคัดเลือก โซนยุโรป (กลุ่มไอ) สุดท้ายแล้วเป็นขุนพลมนุษย์น้ำแข็งที่ปาดหน้าซิวแชมป์กลุ่มพร้อมผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ปล่อยให้ตราหมากรุกเหนื่อยต่อในเกมเพลย์ออฟ ก่อนจะมาเจอกันอีกครั้งในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

กลุ่มอี

- บราซิลเคยเอาชนะคอสตาริก้า ในฟุตบอลโลก 2002 ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของกลุ่มซีด้วยสกอร์ท่วมท้น 5-2

- กลุ่มนี้มีค่าเฉลี่ยอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งรวมสูงสุดเฉลี่ย 18.25 โดยบราซิลรั้งอันดับ 2 ของโลก, สวิตเซอร์แลนด์อยู่ที่ 11, คอสตาริก้าอันดับ 22 และเซอร์เบียอันดับ 38 ของโลก

-บราซิลไม่เคยเอาชนะสวิตเซอร์แลนด์ในเกมรอบสุดท้ายได้เลย โดยขุนพลแซมบ้าเคยเสมอสวิส 2-2 ในปี 1950 และกับเซอร์เบียนั้นไม่เคยเจอกันมาก่อน ทว่าสมัยที่ยังเป็นยูโกสลาเวีย ขุนพลเซเลเซาเคยเอาชนะในรอบสุดท้ายมาแล้วเมื่อปี 1950 ที่ตนเองเป็นเจ้าภาพไป 2-0

กลุ่มเอฟ

- เยอรมันเคยดับฝันเกาหลีใต้ ที่เคยทะลุมาถึงรอบรองชนะเลิศไป 1-0 จากประตูชัยของมิชาเอล บัลลัค เมื่อครั้งที่โสมขาวเป็นเจ้าภาพร่วมปี 2002

- สวีเดนยังคงเจอถูกจับให้มาเจอกับทีมแข็งในเส้นทางเวิลด์คัพ 2018 เช่นเดิม ต่อจากการดวลกับฝรั่งเศส และฮอลแลนด์ในรอบแบ่งกลุ่ม โซนยุโรป, เจอกับอิตาลีในเกมเพลย์ออฟ หลังผลจับสลากรอบสุดท้ายขุนพลไวกิ้งมาต้องมาเจอกับแชมป์เก่าอย่างเยอรมัน

- เม็กซิโกเป็นที่ทีมทำประวัติศาสตร์แพ้มากที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซึ่งขณะนี้ขุนพลจังโก้แพ้ไปแล้ว 25 เกม จากการผ่านเวทีเวิลด์คัพมาแล้ว 15 สมัย (นับก่อนถึงฟุตบอลโลก 2018)

กลุ่มจี

- การเจอกันของเบลเยียมและอังกฤษที่ทั้งสองชาติอุดมไปด้วยนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีก โดยในฤดูกาล 2017-18 ลีกสูงสุดแดนผู้ดีมีนักเตะชาวเบลเยียมอยู่ค้าแข้งมากถึง 19 คน

- ในการจับสลากเมื่อคืนที่ผ่านมา ดิเอโก มาราโดนาเป็นคนจับสลากให้ทีมชาติอังกฤษมาอยู่ในกลุ่มจี ซึ่งแกรี ลินีเกอร์ได้แซวเสือเตี้ยว่า "ดิเอโก้ยังคงมือดีไม่เคยเปลี่ยน" (หัตถ์พระเจ้าปี 1986)

กลุ่มเอช

- ญี่ปุ่นเคยแพ้โคลอมเบียในการเจอกันรอบแบ่งกลุ่มสมัยเวิลด์คัพ 2014 ไป 1-4 ซึ่งหนนี้ วาฮิด ฮาลิลฮอดซิด ออกมาให้สัมภาษณ์ทันทีว่าต้องการจะแก้แค้นคืนให้ได้

- ไม่เคยมีทีมใดในกลุ่มที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้

- เป็นการเจอกันของ 4 ตัวแทนต่างทวีป โปแลนด์ในฐานะทีมจากยุโรป เซเนกัล จากแอฟริกา โคลอมเบีย จากอเมริกาใต้ และญี่ปุ่นตัวแทนของเอเชีย