ฟุตบอลไทย ไทยลีก

TRIBE BEST: 10 แข้งม้ามืดผลงานเด่นโตโยต้า ไทยลีก 2017

ศึกโตโยต้าไทยลีก 2017 ปิดฉากจบลงไปแล้ว แน่นอนว่าหลังผ่านพ้น 34 นัดของแต่ละทีมย่อมมีหลายอย่างให้พูดถึง และอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้คือ ในฤดูกาลนี้มีนักเตะที่แทบจะไม่เป็นที่รู้จักแต่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม บางคนถูกมองข้ามไปตั้งแต่แรก บางคนเพิ่งจะได้สัมผัสกับลีกสูงสุดของไทยเป็นครั้งแรก ไม่เว้นแม้แต่บางรายเปิดตัวอย่าวยิ่งใหญ่อลังการ แต่ฟอร์มแย่จนต้องโดนส่งไปให้ทีมอื่นใช้งาน แต่ผลงานกลับผงาดจนน่าเชื่อเหลือ และนี่คือ 10 แข้งม้ามืดผลงานแจ่มแห่งศึกโตโยต้าไทยลีกซีซันล่าสุด

กดลูกศรทางขวาเพื่ออ่านหัวข้อถัดไป

1.นิติพงษ์ เสลานนท์ | การท่าเรือ เอฟซี

อดีตเด็กสร้างอคาเดมีชลบุรี เอฟซีเริ่มมาแจ้งเกิดบนเส้นทางลูกหนังอาชีพกับสระบุรี เอฟซี เมื่อปี 2014 หลังไม่สามารถเบียดขึ้นชุดใหญ่ในถิ่นชลบุรี สเตเดียมได้ ก่อนที่โอกาสกับยูนิฟอร์มขุนศึก จะทำให้เจ้าตัวมีโอกาสได้ลงสนามให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่แล้วโอกาสของเขากับปราสาทสายฟ้าดันมาไม่สุดอีกครั้ง เมื่อสโมสรตัดสินใจดึงนฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปีมาทัพตำแหน่งแบ็คขวา ทำให้โอกาสของเขาดับลงอีกครั้ง

จากนั้นแข้งวัย 24 ปีตัดสินใจรีเทิร์นทัพขุนศึกสระบุรีด้วยสัญญายืมตัวในเลกแรกของปี 2015 ก่อนจะย้ายมาร่วมทัพการท่าเรือ เอฟซี ในเลกสอง ก่อนจะก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งแบ็คขวาในทีม แม้จะอยู่ในชุดร่วงสู่ดิวิชัน 1 เมื่อปี 2016 ทว่าแบ็คหมายเลข 34 กลับเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จพาทีมคัมแบ็คลีกสูงสุดอีกครั้ง และโอกาสในฤดูกาล 2017 นี้ แม้สิงห์เจ้าท่าจะมีทั้งจเด็ด มีลาภ และเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นเฮดโค้ชคุมทีม ทว่านนท์ยังคงรักษามาตรฐานความคงเส้นคงวายึดตำแหน่งแบ็คขวาในทีมอย่างต่อเนื่อง เบ็ดเสร็จแล้วเขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงถึง 32 เกม ทำ 2 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ พาทีมจบอันดับ 9 แบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อยเรื่องการตกชั้นแต่อย่างใด

2. อภิสิทธิ์ โสรฎา | บางกอกกล๊าส เอฟซี

หนึ่งในแข้งไทยดีลสุดคุ้มที่บางกอกกล๊าสได้มาจากแอร์ฟอร์ซ เซนทรัล เอฟซี เมื่อช่วงต้นซีซันที่ผ่านมา ้เพราะในวัย 20 กะรัต เจมส์ ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะดาวรุ่งที่แจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็วบนลีกสูงสุดของประเทศ เพราะจากจุดเด่นในเรื่องความเร็ว สลับลงเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายและแบ็คซ้ายอย่างเนียนตา ทำให้พื้นที่ทางกราบซ้ายของเดอะ แรบบิท แทบจะไร้ปัญหาการทดแทนตัวผู้เล่นในตำแหน่งนี้

ดาวเตะจากจังหวัดสมุทรสาครสามารถทดแทนการเล่นด้านซ้ายของศุภชัย คมศิลป์ หรือแม้แต่ มงคล นามนวด ได้อย่างไร้ที่ติ โดยเบ็ดเสร็จแล้วในฤดูกาล 2017 นี้ แข้งหมายเลข 28 แห่งถิ่นลีโอ สเตเดียม ได้โอกาสลงสนามไปถึง 9 นัด พร้อมการเบิกสกอร์ให้ทีมไปแล้ว 3 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ
ทั้งหมดนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอภิสิทธิ์พร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ทางริมเส้นด้านซ้ายของทีมในฤดูกาลหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย

 

3.พิชา อุทรา | พัทยา ยูไนเต็ด

แนวรุกที่เข้าไปไปฝึกวิชาลูกหนังกับ เจเอ็มจี อดาเดมี จนได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุแค่ 16 ปี และยังมีดีกรีไปร่วมฝึกซ้อมกับ แอตเลติโก้ มาดริด ทีมพันธมิตร ในศึกลาลีก้า ก่อนจะถูกปล่อยให้ พัทยา ยูไนเต็ด ทีมพันธมิตร ลูกหนังของกิเลนผยองในขณะนั้นใช้งาน ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งของเจ้าตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งเขาช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดได้ และในฤดูกาลก่อนหน้านี้ก็ได้รับโอกาสลงเล่นบ้าง ด้วยการถูกส่งลงเป็นตัวสำรอง 14 นัด โดยที่ไม่เคยเป็นตัวจริง

แต่มาในฤดูกาลที่เพิ่งรูดม่านลง เด็กหนุ่มจากอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ระเบิดเด่นให้ทีมจากภาคตะวันออก กลายเป็นตัวจริงของทีมชนิดจะขาดไปไม่ได้ จนทำให้มีชื่อติดทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองซีเกมส์ ที่ประเทศมาเลเซีย โดยเบ็ดเสร็จแล้วในฤดูกาล 2017 “เคน” ระเบิดฟอร์มพังสกอร์ให้ทัพยาได้ถึง 6 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ จาก 31 นัด พาทีมจบอันดับ 8 ของตารางแบบไม่มีอะไรให้กังวล

4.วิชาญ นันทะศรี | บีอีซี เทโรศาสน

ดาวเตะวัย 31 ปี วนเวียนค้าแข้งในไทยลีกมาแล้วอย่างยาวนาน โดยผ่านการเล่นให้กับทั้ง ทีโอที เอสซี, พัทยา ยูไนเต็ด และ บีอีซี เทโรศาสน ถึง 2 ครั้ง แต่คงไม่มีฤดูกาลไหนที่เขาจะโชว์ฟอร์มได้เปรี้ยงปร้างเท่ากับฤดูกาลนี้อีกแล้ว

เพราะว่า วิชาญ นันทะศรี ซัดไปแล้วถึง 10 ประตูในศึกโตโยต้าไทยลีก ในฤดูกาลนี้ แค่ในฤดูกาลเดียว ก็มากกว่า ประตูจากทุกฤดูกาลรวมกันเสียอีก (ก่อนหน้านี้เขายิงในไทยลีกได้ 7 ประตู จากการลงเล่น ตั้งแต่ปี 2013) แม้ว่าจะเจออาการบาดเจ็บหนักเล่นงาน จนต้องผ่าตัดใบหน้า เพราะปะทะ กับ ชนินทร์ แซ่เอียะ นายทวารจากชลบุรี เอฟซี จนทำให้ต้องเว้นวรรคจากการลงเล่น แต่เมื่อหายเจ็บกลับมาก็ยังรักษาฟอร์มที่คงเส้นคงวาเอาไว้ได้ จากฟอร์มอันยอดเยี่ยมชนิดก้าวกระโดดนี้ ทำให้มีหลายเสียง ต่างเชียร์ให้เขาได้โอกาสติดทีมชาติไทยสักครั้ง

5.พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล | เชียงราย ยูไนเต็ด

อดีตอคาเดมีเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์ไปฝุึกฝีเท้าที่แอตเลติโก มาดริด ถูกเชียงราย ยูไนเต็ด ตัดสินใจดึงมาเสริมทัพลุยซีซันใหม่พร้อมกับเพื่อนซี้อย่างสุริยา สิงห์มุ้ย รวมถึงศิวกร เตียตระกูล โดยมีเป้าหมายพาทีมประสบความสำเร็จมากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต แม้ในช่วงแรกโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอาจจะยังมีไม่มาก เนื่องจากกว่างโซ้งมหาภัยมีดาวดังแดนกลางอย่างธนบูรณ์ เกษารัตน์ เป็นหัวใจสำคัญ แต่เมื่อตั้ม ประสบปัญหาอาการเจ็บยาว ส่งผลให้ตัวตัดเกมวัย 21 ปีเริ่มได้โอกาสลงยืนหยัดแทน นำมาซึ่งโอกาสติดทีมชาติไทยชุดลุยซีเกมส์ที่มาเลเซียได้สำเร็จ

ก่อนที่พิธิวัตจะมีส่วนสำคัญพาไทยซิวเหรียญทองเหนือเจ้าภาพในนัดชิงชนะเลิศ ทั้งยังเบิกสกอร์ได้ในเกมถล่มเวียดนาม 3-0 และหลังจากนั้นดาวเตะหมายเลข 6 ก็ยังคงได้โอกาสลงเป็นตัวจริงให้ยอดทีมจากภาคเหนืออยู่เสมอ และประสานงานแดนกลางร่วมกับแกนหลักอย่างธิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ช่วยตัดเกมรุกคู่แข่งก่อนถึงหน้าที่ของแข้งเกมรับ ก่อนจะพาต้นสังกัดทะลุเข้าชิงเกมบอลถ้วยทั้งช้างเอฟเอ คัพและโตโยต้า ลีกคัพ รวมถึงพาทีมจบอันดับสี่บนตารางคะแนนลีก โดยเบ็ดเสร็จแล้วเขาได้โอกาสลงสนามในเกมลีกมากถึง 23 นัด

6.เควิน ดีรมรัมย์ | ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

แบ็คซ้ายลูกครึ่งไทย-สวีดิชวัย 20 กะรัต ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเด็กสร้างของสโมสรเยอร์กาเดนส์ ในลีกสวีเดน และแวร์เดอร์ เบรเมน มีโอกาสย้ายมาเล่นในเมืองไทยหนแรกกับราชบุรี มิตรผล เอฟซี หลังเอเยนต์เผยถึงพัฒนาการแบบก้าวกระโดดของวงการลูกแผ่นในประเทศบ้านเกิดของมารดา

เพียงซีซันแรกบนไทยลีก เควินงัดประสบการณ์จากต่างแดน ผ่านการเรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังสมัยทดสอบฝีเท้ากับ 2 สโมสรระดับท็อปของยุโรปที่ชื่อคุ้นหูคนไทยไม่ว่าจะเป็นเบรเมน และโรมา จนก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักในแผงเกมรับฝั่งซ้ายของทัพราชันมังกรได้ทันที แถมยังมีโอกาสเบิกสกอร์แรกให้ทีมได้ในเกมถล่มซุปเปอร์ พาวเวอร์ 6-2 พร้อมกับสถิติแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูได้ถึง 7 ครั้ง โดย 6 จาก 7 ครั้งเป็นการเปิดจากลูกโอกาสเพลย์ นำมาซึ่งการถูกมิโลวาน ราเยวัช เรียกขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ รวมถึงการเป็นหนึ่งในขุนพลช้างศึก U23 คว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 29 มาแล้ว

7. รัตนากร ใหม่คามิ | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ผลผลิตลูกหนังอีกรายของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวกับทัพอคาเดมีปราสาทสายฟ้า รุ่นเดียวกับศุภโชค สารชาติ และอานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ที่พาทีมซิวแชมป์ระดับเยาวชนเป็นว่าเล่น ก่อนจะมีโอกาสรับใช้ต้นสังกัดชุดใหญ่เมื่อช่วงเลกสองของฤดูกาลที่แล้ว (2016) ก่อนที่เกม จะใช้เวลาไม่นานในการยึดตำแหน่งตัวจริงให้กับทีม เขาสามารถเบียดรุ่นพี่ร่วมสโมสรในการยืดหยัดทั้งแผงเกมตรงกลาง และบางครั้งกับตำแหน่งเกมรับตามแต่แผนของโค้ช และด้วยโอกาสการลงเล่นบ่อยครั้งในลีก ทำให้วรวุธ ศรีมะฆะ ไม่รอช้าที่จะหนีบเจ้าตัวสวมเสื้อช้างศึก U23 คว้าเหรียญทองมาครอง อีกทั้งยังนับเป็นหนึ่งในดาวรุ่งฟันเฟืองสำคัญพาปราสาทสายฟ้าเดินหน้าซิวแชมป์ลีก 2017 พร้อมทำสถิติเก็บแต้มสูงสุดที่ 86 คะแนนได้อย่างเต็มภาคภูมิ

8.นนท์ ม่วงงาม | เชียงราย ยูไนเต็ด

าช่วงเริ่มซีซัน 2017 หลายคนก็คงไม่คิดว่า นนท์ ม่วงงาม จะได้รับโอกาส ลงเล่นในไทยลีก เพราะยังมีนายด่านรุ่นพี่ทั้งภัทร ปิยภัทร์กิติ, ฉัตรชัย บุตรพรม และสราวุธ กองลาภ ขวางทางอยู่ แถมตัวเขายังขาดประสบการณ์ ทว่าเมื่อฉัตรชัยได้รับบาดเจ็บ สราวุธโยกไปเล่นให้ศรีสะเกษ ส่วนภัทรเริ่มผลงานดร็อปลงไป ทำให้อเล็กซานเดร กามา ให้โอกาส เขาลงทำหน้าที่ และนายทวาร วัย 20 ก็คว้าไว้ได้อย่างสวยงาม ด้วยการโชว์เซฟเข้าตาหลายจังหวะ และไม่ยอมให้ใคร ยิงในเกมโอเพ่นเพลย์ผ่านเขาไปได้ จากฟอร์มอันยอดเยี่ยมตรงนี้ที่มาได้ทันเวลา ทำให้เขาถูกเรียกไปติดทีมชาติ ไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ลงเล่นรอบคัดเลือกชิงแชมป์เอเชีย ช่วยทีมผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่ประเทศจีน

จากนั้นก็ยึดมือหนึ่งยาว จนสามารถคว้าเหรียญทองซีเกมส์ พร้อมสถิติเสียแค่ 1 ประตูจากจุดโทษตลอดทัวร์นาเม้นท์กลายเป็นสถิติใหม่ของซีเกมส์ กว่าที่จะเสียประตูจากลูกโอเพ่นเพลย์ก็ในเกมที่บุกไปพ่าย บางกอกกล๊าส เอฟซี และในตอนนี้แม้ว่า นายทวารรุ่นพี่อย่าง ฉัตรชัย จะหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว แต่เขาก็ยังคงมีบทบาทเฝ้าเสาให้ยอดทีมจากแดนล้านนาอยู่ โดยเฉพาะในเกมไทยลีก

9.เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว | นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่พีคที่สุดของกัปตันเหลิมแห่งทัพสวาทแคท แม้ที่จริงแล้วปราการหลังวัย 30 ปีนั้นเป็นนักเตะตัวหลักของทีมมาตั้งแต่ 2 ซีซันก่อน แม้ว่าจะเคยคว้าแชมป์ไทยลีกมาแล้ว 1 สมัย ตอนที่ประเดิมอาชีพนักเตะครั้งแรกกับ การไฟฟ้า แต่ว่า เฉลิมพงษ์ ก็ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนาม เพราะตอนนั้นแผงหลังของทีมมีนักเตะแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง อภิเชษฐ์ พุฒตาล, ภานุพงศ์ วงศ์ษา, โชคทวี พรหมรัตน์, ปฏิภาณ เพ็ชรพูล และ อองรี โจเอล ทำให้เขาได้โอกาสลงสนามน้อย แต่เมื่อทีมถูกเทคโอเวอร์ โดย บุรีรัมย์ เขาก็ยังอยู่ในทีม บุรีรัมย์ เอฟซี ชุดคว้าแชมป์ ดิวิชั่น 2 ที่เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุด รวมไปถึงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

แต่เมื่อมองเห็นโอกาสการลงสนามอันน้อยนิดเลยตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล แต่ก็ลงเล่นได้ 1 ปี ก่อนที่จะมาอยู่กับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ซึ่งเขาพาทีมไต่เต้ามาจาก ลีกรอง ก่อนขึ้นมาไทยลีก และได้รับปลอกแขนเป็นกัปตันทีม ซึ่งในปีนี้ ถือเป็นกราฟที่พุ่งขึ้นสูงสุดในอาชีพ พ่อค้าแข้งเพราะเขาถูกเรียกไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และกลายเป็นตัวหลักในยูนิฟอร์มช้างศึกนับจากนั้นเป็นต้นมา

 

10.พรรษา เหมวิบูลย์ | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ปิดท้ายที่คู่ปราการหลังตัวกลางในนามทีมชาติไทยของเฉลิมพงษ์ ผู้ที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญาคว้าตัวมาร่วมทัพเป็นรายแรก ก่อนที่จะเปิดฤดูกาล 2017 ที่ในช่วงนั้นแฟนบอลปราสาทสายฟ้าและแฟนบอลไทยคนอื่นๆ อาจจะไม่คุ้นชื่อของเขา เพราะผ่านการเล่นกับทีมอย่าง จามจุรี ยูไนเต็ด, ทีโอที เอสซี และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด มาเท่านั้น

แต่กลายเป็นว่า ผลผลิตจากรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสามารถเบียดตัวหลักในฤดูกาลที่แล้วอย่าง กรวิทย์ นามวิเศษ ให้กลายเป็นเพียงตัวสำรอง และได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง และด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมนี้ ทำให้ไปเตะตา มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย เรียกตัวไปติดทีมชาติ และมอบตำแหน่งตัวจริงให้ ซึ่งปราการหลังชาวจันทบุรี รายนี้ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย ตอนนี้จากนักเตะที่แฟนบอลแทบจะไม่รู้จัก เขากลายเป็นตัวหลักและเป็นกองหลังที่ลงสนามมากถึง 31 เกม ทั้งยังมีชื่อเบิกสกอร์แรกบนลีกสูงสุดของประเทศไปแล้วในเกมเยือนแบงค็อก ยูไนเต็ด