WORTH IT: 10 ดีลสุดคุ้มค่าแห่งศึก โตโยต้า ไทยลีก 2017

คัพฟ้า บุญมาตุ่น  (อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด >>> สุโขทัย เอฟซี)

กองกลางวัย 30 ปี ที่เคยถูกเรียกไปติดทีมชาติไทย แยกทางกับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด แบบไม่ค่อยสวยงามนัก เพราะมีข่าวว่าต้นสังกัดค้างค่าเหนื่อย บางส่วน ก่อนที่จะเรียกมาอยู่กับ สุโขทัย เอฟซี แม้ว่าจะได้ลงสนามเพียงแค่ 18 นัดเท่านั้นในไทยลีกฤดูกาลนี้ แต่ก็ทำได้ถึง 5 ประตู จากตำแหน่งกองหลาง โดยเฉพาะในเกมสำคัญคือนัดที่เปิดรังเสมอกับ ต้นสังกัดเก่าอย่าง เทพอินทรี ไปด้วยสกอร์ 3-3 ซึ่งในเกมนี้ คัพฟ้า ซัดแฮตทริก ได้เป็นครั้งแรกในอาชีพนักเตะ

เซลิโอ ดอส ซานโตส (อุลซาน ฮุนได >>> เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)

แม้ว่าในฤดูกาลฟอร์มของ มาริโอ อบราเต้ จะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็เหมือนว่าจะยังไม่ดีพอในการไปต่อ ทำให้ต้นฤดูกาล 2017 กิเลนผยองตัดสินใจดึงตัว เซลิโอ ดอส ซานโตส กองหลังร่างยักษ์ชาวแซมบ้าจาก อุลซาน ฮุนได ทีมในศึกเคลีก เกาหลีใต้ มาร่วมทีม ซึ่งแข้งวัย 30 ปี สามารถจับคู่กับ นาโออากิ อาโอยามะ ปราการหลังชาวญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวจนทำให้ทีมเสียประตูไปแค่ 29 ประตู เป็นรองแค่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ลีกเท่านั้น จากการลงสนาม 31 เกมตลอดทั้งฤดูกาลนี้ของเขา

พีรดนย์  ฉ่ำรัศมี  (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด >>> พัทยา ยูไนเต็ด)

ทายาทของอดีตนักเตะทีมชาติไทย ไม่สามารถที่จะเบียดแย่งตำแหน่งในทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดได้ ทำให้ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่กับ พัทยา ยูไนเต็ด ที่เขาเคยมาค้าแข้งด้วยในสัญญายืมตัวอีกครั้ง แต่คราวนี้เพิ่มเติมคือสัญญาซื้อขาดจาก โลมา มหาภัย และเมื่อได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ก็ฉายแววโดดเด่นออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงสนามช่วยทีมแบบสม่ำเสมอ ด้วยการได้รับโอกาสลงสนามถึง 30 นัดและยิงได้ 7 ประตู จากส่วนเกินในทีมเมืองทอง กลายเป็นเจ้าชายโลมาไปแล้วในตอนนี้

เรนาน มาร์เกวส    (สุโขทัย เอฟซี >>> ชลบุรี เอฟซี)

ในตอนแรกที่ชลบุรี เอฟซี ได้ตัว เรนาน มาร์เกวส  มาร่วมทีม แฟนบอลบางส่วนอาจจะสงสัยกับความสามารถ และรูปแบบการเล่นของดาวยิงรายนี้ ว่าจะเข้ากับทีมหรือไม่ รวมไปถึงอายุที่ค่อนข้างเยอะถึง 34 ปี อาจจะไม่สามารถยืนระยะช่วยทีมได้ตลอดรอดฝั่ง แต่เมื่อจบฤดูกาล 2017 แม้ว่าผลงานโดยรวมของ ฉลามชลจะไม่ค่อยดีนัก เมื่อจบที่ 7 แต่ว่าผลงานส่วนตัวของ อดีตกองหน้าเชียงราย ยูไนเต็ด ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว เมื่อซัดไปถึง 27 ประตู แม้ว่าจะเป็นลูกจุดโทษถึง 10 ประตูก็ตาม ซึ่งสถิติการยิงประตูที่ว่าสามารถทำลายสถิติยิงประตูต่อฤดูกาลสูงสุดของ ติอาโก้ คุนญ่า ลงได้แบบราบคาบ

มาร์เชล เอสซอมเบ (ดินาโม บูคาเรสต์ >>> ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)

หลังจากที่ ราชบุรี มิตรผล เสีย เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ไปจากทีม ทำให้ต้องหากองหน้าที่ไว้ใจได้ ทำให้ตัดสินใจดึงตัวกองหน้าชาวแคเมอรูนจากดินาโม บูคาเรสต์ ทีมจากลีกสูงสุด ในโรมาเนีย ซึ่งในช่วงแรก อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวในการเล่นในไทยลีก แต่เมื่อปรับตัวให้เข้ากับ สไตลส์ การเล่นในไทย และกับเพื่อนร่วมทีม ราชบุรี มิตรผลได้ ทำให้เขาเริ่มผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง และจบฤดูกาลสามารถยิงได้ถึง 20 ประตู คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทีมไปได้

ศิวกรณ์ เตียตระกูล (บีอีซี เทโร ศาสน >>> เชียงราย ยูไนเต็ด)

อดีตเด็กปั้นของชลบุรี เอฟซี ที่ฉายแววโดดเด่นกับการเล่นให้กับ บีอีซี เทโรศาสน ในฤดูกาล 2016 และสุดท้ายกลายเป็น เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ยอมทุ่มทุนซื้ออนาคตคว้าตัวไปร่วมทีม ด้วยค่าตัวที่คาดกันว่าสูงถึง 10 ล้านบาท  และดูเหมือนว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เมื่อเขากลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในการขับเคลื่อนเกมรุกร่วมกับดาวเตะต่างชาติในทีม และสามารถเล่นได้อย่างเนียนตา จากผลงานการลงสนาม 24นัด และยิงได้ 1 ประตูในลีก รวมไปถึงการ พาทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยทั้งสองรายการ น่าจะบ่งบอกถึงความคุ้มค่าของดีลนี้ได้เป็นอย่างดี

เนบิญ่า บายรัม  (เอฟซี อินเตอร์ ตุรกู >>> อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด)

ก่อนที่จะย้ายมาค้าแข้งกับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด กองกลางเชื้อสายโคโซโววัย 28 ปี มีประสบการณ์มากมายในการค้าแข้งในทวีปยุโรป หลังเริ่มต้นค้าแข้งกับอิงโกลสตัดท์ ในเยอรมัน ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับทีมอื่นๆอย่าง สตุ๊ตการ์ท คิกเกอร์, เอาก์สบวร์ก, ยูเนียน เบอร์ลิน รวมถึง บูร์ซาสปอร์ ในตุรกี และ ซอบ อะฮาน ในลีกอิหร่านก่อนจะย้ายมาค้าแข้งที่ฟินแลนด์ ซึ่งการมาในปีแรกเขาก็สามารถคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทีมได้ทันทีด้วยผลงานซัดไป 12 ประตู  ช่วยให้ทีมอยู่รอดอบบสบายๆ พร้อมลีลาการเล่นที่พลิ้วไหวน่าตื่นตาตื่นใจ ที่สะกดได้ทั้งแฟนบอลและนักเตะฝ่ายตรงข้าม ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของ อุบล ที่เป็นน้องใหม่

พรรษา เหมวิบูลย์   (ขอนแก่น ยูไนเต็ด >>> บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

จากดีลที่หลายคนสงสัยว่า อะไรทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกิดประทับใจในฝีเท้าของเซนเตอร์ฮาล์ฟร่างโย่งร่างนี้ และทำการดึงมาร่วมทัพหลังจากที่กลายเป็นนักเตะไร้สังกัดเพราะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ถูกตัดสิทธิ์ แต่ฝีเท้าตลอดทั้งฤดูกาลของ แข้งเลือดเนื้อเชื้อไขชาวจังหวัด จันทบุรี ตลอดทั้งฤดูกาล ในการยืนคุมแนวรับของปราสาทสายฟ้า ตลอดทั้ง 31 นัดที่ได้ลงสนาม แถมยังทำได้ 1 ประตู คงเป็นคำตอบให้แฟนบอลหายสงสัยได้เป็นอย่างดี และฟอร์มการเล่นของเขายังไปเข้าตา มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยจนกลายเป็นตัวหลักในนามทีมชาติไปด้วย ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือคีย์แมนที่มีส่วนอย่างมากในการช่วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทวงแชมป์ไทยลีกคืน

ฟิลิปเป้ อาเซเวโด  (ปอนเต เปตรา>>> เชียงราย ยูไนเต็ด)

แนวรุกชาวแซมบ้าที่เพิ่งย้ายมาเล่นในไทยลีกเป็นฤดูกาลแรก หลังตัดสินใจเก็บข้าวของจาก ปอนเต เปตรา ทีมในเซเรียเอ บราซิล มาร่วมทัพ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่กำลังทุ่มเม็ดเงินเพื่อสร้างทีมให้แข็งแกร่ง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า กว่างโซ้ง จะต้องยอมจ่ายแพงแค่ไหน เพื่อที่จะได้ดาวเตะระดับมือดีจากพระนครมาร่วมทีม แต่จากตลอดทั้งฤดูกาลที่ ฟิลิปเป้ อาเซเวโด แสดงให้เห็นแล้วว่า เม็ดเงินที่ทีมดังจากแดนล้านนาจ่ายไปนั้นคุ้มค่าแค่ไหน ไม่ใช่แค่การเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจในสนาม แต่ยังคาดหวังถึงประสิทธิภาพได้ด้วย แม้ว่าจะพาทีมจบอันดับที่ 4 ในลีก จากเป้าหมายที่ตั้งไว้สูงกว่านี้ แต่ว่าการเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยสองรายการถือว่าไม่ธรรมดา

ชาคสัน โคเอลโญ่ (โลเคอเรน >>> บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

แม้ว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมี ดิโอโก หลุยส์ ซานโต กองหน้าตัวเก่งอยู่ในทีมอยู่แล้ว แต่ว่าก็ยังตัดสินใจที่จะดึงตัว ชาคสัน โคเอลโญ่ เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งดูเหมือนว่า การใช้คู่หัวหอกแซมบ้า จะเป็นส่วนผสมที่สุดลงตัว ในแนวรุกของ ปราสาทสายฟ้า เมื่อทั้งสองคนผนึกกำลังกันในสนามได้อย่างลงตัวทั้งการช่วยกันทำประตู และต่างคนต่างทำทางให้กัน แบ่งเบาภาระในแดนหน้าของเพื่อนร่วมทีม และด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง สุดๆของ ชาช่า ทำให้เขาทำสถิติลงเล่นครบทั้ง 34 เกม ในฤดูกาลนี้ และยิงได้ 34 ประตู ซึ่งค่าเฉลี่ย 1 นัดต่อ 1 ประตูถือว่ายอดเยี่ยมสุดๆแล้ว