สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าวใหญ่ จับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการล็อคผลการแข่งขัน 12 ราย โดยมีทั้งนักฟุตบอล กลุ่มนายทุน รวมไปถึงผู้ตัดสินระดับฟีฟ่า
เมื่อเวลา 14.00น. วันที่ 21 พฤศจิกายน ณ ห้องศรียานนท์ โซนซี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการแถลงข่าว การจับกุมขบวนการล้มบอลไทย โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นประธาน ในการแถลงข่าวออกหมายจับ 12 ผู้เกี่ยวข้อง
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ก็ได้พบว่ามีกลุ่มนายทุนจากต่างประเทศติดต่อเข้ามาผ่านตัวแทนในไทย เพื่อไปเจรจาล็อคผลการแข่งขัน กับผู้บริหารทีม, นักฟุตบอล รวมไปถึงกรรมการ เพื่อให้ผลการแข่งขันเป็นไปตามที่กำหนดไว้
ล่าสุดได้ตรวจพบหลักฐานชิ้นสำคัญ รวมไปถึงผู้ตัดสินได้ให้การสารภาพ ว่ากระทำผิดจริง จึงได้มีการสอบสวนขยายผล จนเป็นที่มาถึงการออกหมายจับ 12 รายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
ในส่วนของ พล.ต.อ. สมยศ ได้ออกมาแถลว่า “สืบเนื่องจากตัวผมเองได้ทำหน้าที่เข้ามาเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศ และได้รับคำถามว่าการแข่งขันบอลไทยรายการต่างๆ ว่ามีการล็อคผลล่วงหน้าหรือไม่ ตัวผมเองอยากพิสูจน์เอง จึงได้หารือกับผบตร ขอความร่วมมือ ซึ่ง่านได้สั่งการตั้งคณะกรรมการรวมหลักฐานมาร่วมปี เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราต้องรวบหลักฐานให้ได้ครบถ้วน”
“เราทำงานร่วมมือกับสปอร์ตเรด้า ของเอเอฟซี แต่ไม่มีการให้ข่าว เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปเรียบร้อยก่อนที่จะมีแถลงข่าว ผมอย่างจะบอกว่า การล็อคผลฟุตบอลหรือล้มบอล มันไม่ใช่เพิ่มมี มันมีมานานแล้ว เป็นสิบปี แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆในเรื่องนี้ หรือทำเรื่องนี้ให้ประจักษ์”
“เดิมทีผู้มีบารมีในวงการฟุตบอลได้ขอร้อง บังคับ ขู่เข็ญ เพื่อที่จะสร้างประโยชน์ให้กับพวกพ้อง แต่ก่อนยังไม่รุนแรง แต่ปัจจุบันมีการสนับสนุนมากขึ้น มันเลยเป็นเรื่องที่รุนแรงการแข่งขันมากยิ่งขึ้น บุคคลที่กล่าวมาแต่ต้นจึงเอาเปรียกำหนดผลการแข่งขัน และยิ่งปัจจุบันการพนันเข้าถึงง่ายมากขึ้น เมื่อมีการพนันเข้ามา บุคคลพวกนี้เลยเอาผลที่ล็อคมาเล่นการพนัน”
“ผมขอเรียนว่าถ้าการล้มบอล เปรียบเสมือนโรคร้ายในร่างกายเรา เราต้องรักษา ถ้าเป็นมะเร็งร้าย มันต้องผ่าตัด มันก็เจ็บ แต่ถ้าเราปล่อยไว้ ก็รอวันตาย เราจะไม่รอวันตายเหมือนเพื่อนบ้านเราที่ล็อคผลเพื่อการพนัน”
“ผมเชื่อฝีมือตำรวจ ก่อนจะมาถึงวันนี้ได้ เราทำงานมาเกือบปี ถ้าสามมรถดำเนินคดีได้ ก็ดำเนินเลย ถ้ายังไม่ได้ก็จับตามอง จริงๆมีผู้ที่ถูกเรียกมาสอบมากกว่านี้”
“ในส่วนกรรมการได้มีบางส่วนที่ถูกเรียกมาเชิญมาสอบปากคำ บางคนก็เดินมาหาเพื่อเล่าให้ฟัง เพราะเขาไม่ได้ทำตามคำสั่ง ทำให้เขาถูกกลั่นแกล้งไม่ให้ถูกปฏิบัติหน้าที่ บางคนอยากไปอบรมผู้ตัดสิน ถ้าไม่ทำตามคำสั่งก็จะไม่ได้ไป”
“กระบวนการของบุคคลเหล่านี้จัดตั้งครบวงจร มีนายทุนในประเทศทั้งในประต่างประเทศ เราได้เชิญผู้ตัดสินหรือนักกีฬาที่อยู่ในข่ายมาสอบถาม ซึ่งเขาได้ยืนยันว่ามีอยู่จริงแต่ไม่ได้รับารแก้ไข แต่วันนี้ทุกคนกล้าเปิดเผย หลังจากนี้ 12 คนที่ออกหมายจับหรือดำเนินคดี ไม่ได้มีแค่นี้ ถ้ามีหลักฐานก็ต้องมีสาวต่อไป มันเพิ่งเริ่มแค่ยกที่หนึ่งเท่านั้น”
ในส่วนของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา “จริงๆแล้ววงการฟุตบอลเป็นที่ครหาสงสัยมาตลอด การทำทีมใช้เงินมหาศาล ผมถือว่าเป็นการเอาเปรียบฟุตบอลจริงๆ บางทีทีมอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีนักเตะทำอย่างนี้มาโดยตลอด แม้ตัวเองจะบริสุทธิ์ใจที่จะทำจริงๆ ลักษณะทีมผมเองก็โดนเหมือนกัน มาเฟียฟุตบอลมีแต่ใหญ่ๆทั้งนั้น แต่การสืบสวน ผมว่าคดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ ต้องรอดูว่าศาลจะตัดสินบอย่างไร”
“ก็อยากให้วงการฟุตบอลยิ่งใหญ่เหมือนประเทศอื่นๆ แต่ถ้าสิ่งเหล่านี้ยังเกาะกิน ตอนนี้ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวหมดแล้ว ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการไปตามยุติธรรม”
“ในส่วนของบทลงโทษ กรรมการสูงสุดจำคุก 10 ปี เริ่มจาก 1-10 ปี ปรับ 300,000 – 600,000 บาท อายุความ 15 ปี ส่วน นักฟุตบอลจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 200,000 – 600,000 บาท อายุความ 10 ปี ขณะที่นายทุนไม่เกิน 5 ปี 200,000 – 500,000 บาท อายุความ 10 ปีเหมือนกันครับ ซึ่งตอนนี้ทั้ง 12 คนได้ถูกประกันตัวชั่วคราว”
สำหรับ 12 ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการล้มบอล ล็อกผลการแข่งขัน มีดังนี้
นักฟุตบอลอาชีพ 5 ราย
1.นายสุทธิพงษ์ เหลาพร นักฟุตบอลทีม ราชนาวี เอฟซี
2.นายณรงค์ วงษ์ทองคำ ผู้รักษาประตูทีม ราชนาวี เอฟซี
3.นายสุวิทยา นำสินหลาก นักฟุตบอล ทีม ราชนาวี เอฟซี
4.นายเสกสันต์ ชาวทองหลาง นักฟุตบอลทีม ราชนาวี เอฟซี
5.นายวีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี
กรรมการผู้ตัดสิน 2 ราย
1.นายภูมิรินทร์ คำรื่น (ผู้ตัดสิน)
2. นายธีรจิตร สิทธิศุข (ไลน์แมน)
ผู้บริหารสโมสร 1 ราย
นายเชิดศักดิ์ บุญชู ผู้อำนวยการสโมสร ศรีสะเกษ เอฟซี
กลุ่มนายทุนหรือตัวแทนนายทุน 4 ราย
1.นายวัลลภ สมาน
2.นายกิตติภูมิ ปาภูงา
3.นายมานิตย์ หรือ เศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ
4.นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล