เอเชีย ฟุตบอลญี่ปุ่น

FIVE SWEET SPOTS: 5 ประเด็นน่าสนใจหลังชนาธิปช่วยคอนซาโดเลรอดตกชั้น

หลังสิ้นสุดเกมเจ1ลีก นัดที่ 32 ของฤดูกาล เป็นที่แน่นอนแล้วว่าคอนซาโดเล ซัปโปโร ต้นสังกัดของชนาธิป สรงกระสินธ์การันตีการอยู่รอดปลอดภัยบนลีกสูงสุดในลีกอาชีพแดนซามูไรในฤดูกาลหน้าแน่นอนแล้ว หลังบุกไปชนะชิมิสุ เอสพัลส์ สโมสรที่เคยไปทดสอบฝีเท้าสมัยเยาวชน และปัจจุบันเป็นทีมที่ลุ้นตกชั้นด้วยกันถึง 2-0 และนี่คือ 5 ประเด็นน่าสนใจหลังจบเกมการแข่งขันนัดดังกล่าว

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

1. กลับไปเยือนทีมที่เคยร่วมทดสอบฝีเท้า

ก่อนที่เกมการแข่งขันนัดดังกล่าวจะอุบัติขึ้น หนึ่งในประเด็นที่น่าจับตาก่อนเกมคือการที่ชนาธิปกลับมายังสโมสรที่เขาเคยลงทดสอบฝีเท้าอีกครั้งตั้งแต่สมัยที่เป็นนักเตะดาวรุ่งสังกัดบีอีซี เทโร ศาสน เมื่อปี 2013 โดยการบินมาทดสอบฝีเท้าหนนั้นถือเป็นช่วงที่ทั้งสองสโมสรตกลงร่วมมือเป็นพันธมิตรลูกหนังกัน ซึ่งชนาธิปได้อยู่ลงซ้อมกับทีมจากจังหวัดชิสุโอกะเป็นเวลา 1 สัปดาห์ด โดยมีอัพซิน ก็อบบี อดีตผู้ฝึกสอนชาวอิหร่านของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำหน้าที่เป็นเฮดโค้ชดูการฝึกซ้อมของดาวรุ่งชาวไทยในขณะนั้น

อย่างไรก็ตาม แม้เจที่ในขณะนั้นอายุ 20 ปี จะถูกแฟนบอลเอสพัลส์เข้ามาขอลายเซ็น ถ่ายรูป และพูดถึงว่าเป็นเมสซีจากประเทศไทย รวมถึงถูกสื่อในญี่ปุ่นยกย่องความสามารถเฉพาะตัว แต่สุดท้ายเขาไม่ได้รับการเซ็นสัญญากับสโมสรแต่อย่างใด กระทั่งอีก 4 ปีต่อมา เจ้าตัวมีโอกาสกลับมาเยือนทีมอีกครั้งในฐานะทีมคู่แข่งลุ้นหนีตกชั้นด้วยกัน ก่อนจะมีส่วนสำคัญในการพาคอนซาโดเล บุกมายัดเยียดความปราชัยถึงถิ่น 2-0 พร้อมการันตีรอดตกชั้นแน่นอนแล้ว

2. อีกครั้งกับตำแหน่งที่ถนัด

สตาร์หมายเลข 18 ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก ชูเฮ โยโมดะ กับการออกสตาร์ทตัวจริงในเกมเจ1ลีก เป็นนัดที่ 14 ซึ่งเกมนี้เขายังคงได้รับโอกาสลงสนามในฐานะเพลย์เมกเกอร์ คอยปั้นเกมให้เจย์ โบธรอยด์ ศูนย์หน้าตัวเป้า อีกหนึ่งนัด โดยลงยืนคู่กับชินโงะ เฮียวโดะ แข้งหมายเลข 6 ที่เคยเบียดแย่งตำแหน่งนี้เมื่อตอนที่แข้งชาวไทยไม่สมบูรณ์

เป็นที่ทราบกันดีว่าอาวุธเด็ดของคอนซาโดเลคือการสาดบอลยาวขึ้นหน้าในกลุ่มหัวหอกร่างโย่งผลิตสกอร์ และเราอาจจะเห็นบทบาทของชนาธิปกับตำแหน่งห้องเครื่องที่ดูดร็อปลงไป ทว่าในเกมบุกเยือนเอสพัลส์หนนี้ โอกาสป้วนเปี้ยนและปั้นเกมของเขาก็นำมาซึ่งประตูปิดกล่อง 2-0 ในช่วงท้ายครึ่งแรก แสดงให้เห็นแล้วว่าเมื่อเขามีโอกาสได้สร้างสรรค์เกมรุกบนพื้นนั้น ก็มีโอกาสจบสกอร์ได้เช่นกัน

3. เกมนี้ทำผลงานดี

เมื่อได้ลงสนามในตำแหน่งที่ถนัด และเริ่มจะปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีม รวมถึงแท็กติคที่ชูเฮ โยโมดะวางไว้ในแต่ละเกมแบบดีวันดีคืน ส่งผลให้ในเกมนัดที่ 32 ของฤดูกาล “เจ” ได้โอกาสสร้างสรรค์เกมรุกจนเป็นที่น่าพอใจหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเอาาตัวรอดจากพื้นที่แคบ พาบอลไปยังกรอบเขตโทษคู่แข่ง ผ่านบอลแบบเล่นง่ายให้เพื่อนร่วมทีม นำมาสู่การได้ประตูที่สองที่เจ้าตัวกล้าเลี้ยงเข้าพื้นที่สุดท้าย นอกจากนี้ เขายังได้รับโอกาสลงสนามเต็มเวลา 90 นาทีอีกหนึ่งนัด และดูเหมือนว่าพอบอลเริ่มนำห่าง มาจนถึงช่วงใกล้จะหมดเวลาแล้ว เขาถูกเพื่อนร่วมทีมช่วยกันปั้นให้หาโอกาสทำประตู เพียงแต่โอกาสทำเกมรุกหวังเบิกสกอร์แรกยังไม่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง

4. การันตีรอดตกชั้น

หลังผ่านเกมนัดที่ 31 โอกาสรอดตกชั้นของคอนซาโดเล ซัปโปโรเริ่มจะมีความชัดเจนและภาษีดีกว่าทีมร่วมชะตากรรมเดียวกัน เพราะหากพวกเขาบุกมาเก็บแต้มเหนือชิมิสุ เอสพัลส์ ก็จะการันตีถึงการอยู่รอดปลอดภัยในฤดูกาลนี้ทันที

สำหรับผลงานตลอด 90 นาที ทุกอย่างกลับเป็นไปตามความตั้งใจของยอดทีมแห่งเกาะฮอกไกโด เพราะนอกจากพวกเขาจะมาได้ 2 ประตูนำห่างแบบอุ่นใจจากเจย์ โบธรอยด์ตั้งแต่ช่วงครึ่งเวลาแรกแล้ว เวลาที่เหลือของครึ่งหลังนักเตะทุกคนต่างรวมใจกันช่วยสกัดกั้นเกมบุกที่ถาโถมมากขึ้นของเจ้าถิ่น ช่วยกันวิ่งไม่มีหมดตลอดเวลาที่เหลือ อีกทั้งกู ซุง ยุง นายทวารชาวเกาหลีใต้ยังโชว์หนึบไว้ใจได้หลายจังหวะ นำไปสู่การเก็บ 3 คะแนนล้ำค่า การันตีรอดตกชั้นอย่างเป็นทางการแน่นอนแล้ว

5. ยังมีลุ้นใส่สกอร์แรกในเกมที่เหลือ

ดังที่กล่าวไปให้หัวข้อก่อนๆว่าเกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่ชนาธิปได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด มีพื้นที่ให้กระชากลากเลื้อยอีกหนึ่งนัด และแน่นอนว่าเขายังคงมีโอกาสลุ้นประเดิมสกอร์แรกในเวทีเจ1ลีก เพราะทีมคู่แข่งอยู่ในระดับเดียวกัน ไม่ได้มีความแข็งแกร่งมาก อย่างไรก็ตามเจ้าตัวกลับยังไม่สามารถหาพื้นที่ได้โอกาสส่องประตูเช่นเคย ชนาธิปยังคงแสดงบทบาทการเป็นเพลย์เมกเกอร์คอยสร้างสรรค์เกมรุกให้เพื่อนส่องประตูมากกว่า แม้จะมีโอกาสยิงไกลนอกกรอบเขตโทษหนึ่งหน แต่น้ำหนักลูกก็เบาจนไม่อาจทำอะไรนายด่านเจ้าบ้านได้ ทำให้แฟนบอลชาวไทยยังคงต้องมาลุ้นกันต่อว่า ในอีกสองเกมที่เหลือ ที่จะดวลกับกัมบะ โอซากา และซางัน โทสุนั้น เขาจะเบิกสกอร์แรกให้ทีมได้หรือไม่