ฟุตบอลไทย

SEE YOU THERE : 6 กุนซือขาเก้าอี้แข็งแรงแห่ง โตโยต้า ไทยลีก

แม้ว่าศึกโตโยต้า ไทยลีกจะได้ชื่อว่าเป็นลีกที่โหดหิน และในแต่ละฤดูกาลมักจะมีโค้ชตกงานกันเป็นว่าเล่น ด้วยสาเหตุหลายๆอย่าง แต่ว่าก็ยังมีกุนซือบางส่วนที่สามารถรักษาขาเก้าอี้ของตัวเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และในฤดูกาลหน้าเราน่าที่จะได้เห็นพวกเขาเหล่านี้ทำหน้าของตัวเองกับสังกัดเดิมต่อไป

 

กดลูกศรทางขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

เทิดศักดิ์ ใจมั่น | ชลบุรี เอฟซี

โค้ชแอนด์เพลย์เยอร์ของ ชลบุรี เอฟซี ที่ถูกดันขึ้นทำหน้าที่ตั้งแต่ มาซาฮิโร วาดะ กุนซือชาวญี่ปุ่นขอแยกทางกับทีมหลังจากพาทีมได้ตำแหน่งรองแชมป์ ในปี 2015 ในตอนที่รับตำแหน่งตอนแรกแฟนบอลหลายคนคิดว่าเขาคงไม่สามารถจะอยู่ในตำแหน่งไปได้แบบตลอดรอดฝั่ง

ซึ่งก็เกือบจะเป็นความจริง เพราะว่าโค้ชเทิด เคยประกาศยุติบทบาทเมื่อตอนพาทีม ชลบุรี เอฟซี พ่ายตาบ้านต่อ ศรีสะเกษ เอฟซี ในฟุตบอลถ้วยโตโยต้า ลีกคัพ แต่บอร์ดบริหารได้ยับยั้งเอาไว้ เพราะนโยบายการทำทีมคือการ สร้างทีมขึ้นมาด้วยการใช้เยาวชนที่เป็นผลผลิตของสโมสร และให้สโมสรสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง คือนโยบายหลักที่มาก่อนความสำเร็จ

และในฤดูกาลนี้ โค้ชเทิด ก็ตอบสนองนโยบายด้วยการใช้ดาวรุ่งลงสนามหลายคน แม้ว่าในฤดูกาลนี้ทีมมีโอกาสที่จะหลุดท็อปไฟว์ และไม่มีถ้วยติดไม้ติดมือ เพราะตกรอบไปหมดแล้ว แต่ว่าในฤดูกาลหน้า เราก็น่าที่จะได้เห็นเขาทำหน้าที่ยืนคุมลูกทีมอยู่ข้างสนามต่อไป

ธชตวัน ศรีปาน | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

ในขวบปีแรกที่สุภาพบุรุษลูกหนังแห่งเมืองไทย เหยียบย่างมาในเอสซีจี สเตเดี้ยม ก็สามารถพาทีมกลับมาคว้าแชมป์ไทยลีกได้อีกครั้ง รวมไปถึงทำลายสถิติไม่เคยเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงได้ ไม่ใช่แค่ 1 แต่เป็นถึง 3 ครั้งซ้อนๆในฤดูกาล 2016

ส่วนในฤดูกาลนี้ “โค้ชแบน” ยังพาทีมต่อยอดทำผลงานในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อสามารถผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าของนักเตะ และการเสียผู้เล่นตัวหลักๆไป โดยเฉพาะ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ย้ายไปเล่นในเจลีก กับคอนซาโดเล ซัปโปโร ทำให้ทีม กิเลนผยอง ไม่สามารถรักษาความคงเส้นคงวาได้ เหมือนเดิม จนถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เบียดแย่งแชมป์คืน แต่ก็ยังมีลุ้นในฟุตบอลถ้วยลีกคัพ และที่สำคัญทีมการันตีโควตาไปเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว

อันที่จริงบอร์ดบริหารของเมืองทองได้พยายามที่จะต่อสัญญากับ โค้ชแบน ระหว่างฤดูกาล พร้อมกับค่าจ้างที่แพงที่สุดในลีก แต่เจ้าตัวยังขอมุ่งมั่นทำการทำหน้าที่ก่อน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าผู้บริหารจะไว้เนื้อเชื่อใจเขาอยู่ไม่น้อย

มิลอส โจซิค | นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

กุนซือร่างท้วมที่เคยคุมทีม พัทยา ยูไนเต็ด ก่อนจะโยกมาคุม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในซีซั่นนี้ แม้ว่าจะมีผลงานที่ไม่ได้โดดเด่นมาก แต่ก็สามารถที่จะพาทีมอยู่รอดปลอดภัยในศึกโตโยต้าไทยลีกได้แบบสบายๆ ซึ่งตามเงื่อนไขของสัญญาเขาจะได้คุมทีมต่อทันทีหากว่าสามาถที่จะพาทีมรอดตกชั้นได้

ซึ่งผลงานก็ถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย เมื่อทีมสามารถจบอันดับที่ 12 ของตารางได้ นอกจากนี้บอร์ดบริหารของทีมก็คงไม่อยากที่จะเสี่ยงเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับกุนซือหน้าใหม่ที่จะเข้ามา เพราะฉะนั้นการเลือกใช้งาน มิลอส โจซิค ต่อไปน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะในฤดูกาลหน้าศึกไทยลีกจะโหดหินขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าจะมีทีมตกชั้นมากถึง 5 ทีมด้วยกัน

โบซิดาร์ บันโดวิช | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

กุนซือเลือกเซิร์บที่กลับมาทำงานในถิ่น ไอโมบายสเตเดี้ยมอีกครั้ง ในตอนแรกฐานะผู้ช่วยของ รันโก โพโพวิช แต่หลังจากที่ อดีตเฮดโค้ช เซเรโซ โอซาก้า ถูกแบนยาวหลังจากไปกระทบกระทั่งกับสต๊าฟฟ์โค้ชของ แบงค็อก ยูไนเต็ด และตัดสินใจลาออก ทำให้ ประธานสโมสร เนวิน ชิดชอบ เลือกที่จะดันเขาขึ้นมารับไม้แทนในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง

แม้ว่าจะผิดหวังในฟุตบอลถ้วย ที่ทีมพลาดการได้แชมป์ในทุกรายการ แต่ว่าในโตโยต้า ไทยลีก อดีตกุนซือศรีสะเกษ เอฟซี สามารถพาทีม ปราสาทสายฟ้า กลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง ซึ่งเขาน่าจะได้รับการตอบแทนด้วยการอยู่คุมทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า

อเดบาโย่ กาเดโบ้ | สุพรรณบุรี เอฟซี

อดีตแข้งต่างชาติรุ่นแรกๆในไทยลีกตั้งแต่ปี 1997 ถึงตอนนี้ก็ 20 ปีเต็ม เป็นอดีตนักเตะทีมชาติไนจีเรีย เพื่อนรุ่นเดียวกับ เอ็นวาโก คานู  และ เจย์ เจย์ โอเคชา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกสุพรรณบุรี เอฟซี ดันให้รับตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสร ยาวนานถึง 6 ปี

จนกระทั่ง แซร์โจ้ ฟารีอาส  ประกาศลาออกทีมได้แต่งตั้ง วรวุธ ศรีมะฆะ ขึ้นมาทำหน้าที่ต่อ แต่ก็คุมทีมได้ไม่นาน เพราะควบภารกิจคุมทีมชาติไทยชดอายุไม่เกิน 23 ปีไปด้วย ทำให้ “โค้ชโย่ง” ตัดสินใจเลือกคุมทีมช้างศึกอย่างเดียวและเหมือนจะตัดสินใจถูกเพราะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ซีเกมส์มาได้ ทำให้ อเดบาโย่ ถูกดันขึ้นเป็นกุนซือรักษาการ และทำผลงานได้ไม่ขี้เหร่ ด้วยการที่อยู่กับทีมมานาน รู้จักทีมเป็นอย่างดี น่าจะทำให้เขาได้รับโอกาสต่อเนื่องแทนที่สโมสรจะมองหาใครใหม่ที่มาพร้อมกับความเสี่ยงครั้งใหม่

มาโน โพลกิง | แบงค็อก ยูไนเต็ด

ในตอนนี้กุนซือชาวเยอรมันที่ไปเติบโตที่บราซิล คือเฮดโค้ชที่ทำสถิติอยู่กับทีมนานที่สุดในไทยลีก และดูเหมือนว่าสถิติของเขายังจะคงอยู่ไปเรื่อยๆแบบยากที่จะทำลาย

แม้ว่าในช่วงแรก แบงค็อก ยูไนเต็ด จะออกตัวได้ไม่ดีนัก ทั้งการพ่ายต่อ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ในศึกเอเอฟซีแชมเปี้ยสส์ลีกรอบเพลย์ ออฟ และในไทยลีก จนทำให้แทบจะหมดลุ้นแชมป์ตั้งแต่แรก แต่ผู้บริหารก็ยังคงไว้ใจในฝีมือของ มาโน และตัดสินใจให้ทำหน้าที่ต่อ

ซึ่งเฮดโค้ชวัย 41 ปี ตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจด้วยการพาทีมกลับมาระเบิดฟอร์มจนกลับสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ หลังเดินหน้าคว้าชัยชนะ 11 นัดรวดในทุกรายการจนกลายเป็นสถิติใหม่ของสโมสร และทำให้ทีมกลับมามีลุ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ ในส่วนของบอลถ้วยยังเหลือ แชมป์ เอฟเอคัพ ให้ได้ลุ้น แต่แม้ว่าจะได้แชมป์ หรือไม่ ในฤดูกาลหน้าที่ข้างสนามของแบงค็อก ยูไนเต็ด จะมีเขายืนสั่งการลูกทีมด้วยแอคชั่น ที่ดุเด็ดเผ็ดมันซึ่งคุ้นตาแฟนบอลเป็นอย่างดีอย่างแน่นอน