ฟุตบอลไทย ไทยลีก

GAME CHANGER : 5 จุดพลิกผันพา “บุรีรัมย์” คว้าแชมป์ลีกสมัย 5

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับมาทวงความยิ่งใหญ่คืนได้ หลังจากที่เปิดบ้านเอาชนะ บีอีซี เทโรศาสน ลงได้ตามที่ ประธานสโมสรได้ ประกาศลั่นเอาไว้ว่าทีมจะต้องคว้าแชมป์ให้ได้ก่อนที่จะหมดฤดูกาล ไม่เพียงเท่านั้น ทุกอย่างถูกเตรียมการเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการส่งหนังสือขอรับถ้วยแชมป์ต่อสมาคมกีฬาฟุตบอล และการจัดงานคอนเสิร์ต ด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าพวกเขาจะมีแต้มจาก มังกรไฟ และทำให้พวกเขาเข้าป้ายคว้าแชมป์ได้ตามเป้า มันเหมือนเป็นดาบสองคม

เพราะอีกมุมถือว่าเป็นความกดดันที่มีต่อนักเตะ และหากว่าเกิดพลาดการได้แชมป์ในเกมนี้ขึ้นมา กิเลนผยองอาจจะใช้โมเมนตั้มนี้เหวี่ยงให้ทุกอย่างมาเข้าทางพวกเขาได้ แต่ว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ปล่อยให้งานฉลองที่ถูกจัดมารอไว้ ต้องรอเก้อ เมื่อระเบิดฟอร์มสุดยอด ถล่มเอาชนะ บีอีซี เทโรศาสน ด้วยสกอร์ขาดลอย 4-0 ได้ฉลองแชมป์ต่อหน้าแฟนบอลในบ้านสมใจ และเป็นแชมป์สมัยที่ 5 ของพวกเขาทำให้ ปราสาทสายฟ้าเป็นทีมที่คว้าแชมป์ไทยลีกได้เยอะที่สุดในเมืองไทย

ในการแข่งขันเกมลีกกับฤดูกาลที่ยาวนาน มีปัจจัยมากมายที่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยน ทำให้ ปราสาทสายฟ้า กลับมา “Strike back” แย่งแชมป์คืนจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ตามเป้าหมายของพวกเขา และนี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญแห่งฤดูกาลทั้ง 5 จุดก่อนที่การลุ้นแชมป์จะสิ้นสุดลง

 

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

นัดเปิดสนามบุรีรัมย์ฮึดยิง2 ประตูตามตีเสมอชลบุรี

มีคำพูดว่า “เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” แน่นอนว่าหลายครั้งคำพูดนี้คือเรื่องจริงที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วหลายครั้งในทุกๆอย่างที่ทำ และการเกมเปิดสนามของฤดูกาล 2017 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีเป้าหมายหนึ่งเดียวคือ ทวงแชมป์คืน ต้องเจอกับงานหนัก ในการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ชลบุรี เอฟซี แน่นอนว่า พวกเขาต้องการออกตัวให้สวยด้วยการประเดิมสามแต้มให้ได้

แต่ว่ากลายเป็นทีมเยือน ชลบุรี เอฟซี ที่บุกมาช็อกเจ้าบ้านด้วยการออกนำไปก่อน 2-0 จากการพังประตูของ นูรูล ศรียานเก็ม ในช่วงท้ายครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังพวกเขา พลิกสถานการณ์กลับมาได้จากการพังประตูของ ชาคสัน อเวลิโน โคเอลโญ และ โซลวี ออตเตเซน ที่โชว์ฟอร์มไม่ค่อยดีนักตลอดเกมแต่มาแก้ตัวด้วยการพังประตูตีเสมอให้ทีมได้ในช่วงท้ายเกม ทำให้พวกเขาไม่ต้องประเดิมฤดูกาลใหม่ ด้วยความพ่ายแพ้ จนเรียกความมั่นใจเอาไว้ได้ก่อน

 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านล้างแค้น เมืองทอง ยูไนเต็ด

ก่อนฤดูกาล 2016  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือครองสถิติอันยอดเยี่ยมในการพบกับ คู่ปรับตลอดกาลของพวกเขาอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยสถิติไม่เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้แม้แต่เกมเดียว แต่ในฤดูกาล 2016 ทุกๆอย่างเปลี่ยนไป เมื่อพวกเขาพ่ายให้กับ กิเลนผยอง ในทั้งไปและกลับในลีก รวมไปถึงฟุตบอลถ้วย เรียกว่าสถิติที่พวกเขาภูมิใจมลายหายไปหมดสิ้น

แต่ในเกมแรกของฤดูกาล 2017 ที่ไอโมบายสเตเดี้ยม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดการล้างแค้นใส่คู่ปรับของพวกเขาได้สำเร็จด้วยการเปิดบ้านเอาชนะไป 2-0 ซึ่งถือเป็น 3 แต้มที่สำคัญของการพบกันในทีมที่เบียดลุ้นแชมป์กันเมื่อกับว่าปราสาทสายฟ้าได้ 6 คะแนนไปกลับ ทั้งการตัดเกมเมืองทอง และแย่งคะแนนมาเป็นของตัวเองได้ ถือเป็นจุดเปลี่ยน อีกจุดที่สำคัญในการลุ้นแชมป์

 

เมืองทองสะดุดพ่ายน้องใหม่ ไทยฮอนด้า,การท่าเรือ,อุบล ยูเอ็มที

ในการแข่งขันในระบบลีกนอกจากที่จะต้องเดินหน้าเก็บแต้มด้วยตัวเองแล้ว ยังต้องลุ้นให้คู่แข่งผิดพลาดเองด้วย ซึ่ง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่กรำศึกหนักทั้งในประเทศ และในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่จะต้องเดินทางไกล พลาดท่าเสียที สะดุดพ่ายให้กับสามทีมน้องใหม่ อย่าง ไทยฮอนด้า, การท่าเรือ และ อุบล เอ็มที ซึ่งสองเกมหลังเป็นการพ่ายแพ้คาบ้าน กับ 9 คะแนนที่หลุดลอยไปส่งผลอย่างใหญ่หลวงกับการลุ้นแชมป์

แม้ว่าจะเป็นปลายเลกแรก แต่ เป็นบุรีรัมย์ ที่ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป โดยเดินหน้าโกยแต้มได้อย่างต่อเนื่องทั้งการเอาชนะ สุโขทัย เอฟซี 1-3 ทั้งที่ตามหลังก่อน ตามด้วยเปิดบ้านชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 3-0  และ เปิดบ้านเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทำให้บุรีรัมย์ ที่คะแนนตามหลังทำคะแนนมาจี้

บุรีรัมย์แซงนำม้วนเดียวจบหลังเมืองทองพลาดท่าโดนสุโขทัยตามแบ่งแต้ม

แม้ว่าเอสซีจี เมืองทอง  ยูไนเต็ด จะทำแต้มหล่นก่อนหน้านี้มาหลายเกม แต่คะแนนของพวกเขายังคงนำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ แต่ในเกมแรกของเลกที่สอง ที่กิเลนผยอง บุกไปเยือน สุโขทัย เอฟซี ที่สนามทะเลหลวง พวกเขาพ่ายท่าถูกไล่ตามตีเสมอหลังจากที่ออกนำไปก่อน 2-0 แต่จบเกม ลูกทีมของโค้ชแบนเดินออกจากสนามด้วยคะแนนแค่ 1 คะแนนเท่านั้น หลังเจอทีเด็ดเจ้าบ้านไล่ยิงคืน 2 ลูกรวด ส่วนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นเปิดบ้านเอาชนะ ราชนาวี ไปด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้พวกเขา ขยับขึ้นมายึดตำแหน่งจ่าฝูงได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล และเป็นการนำแบบม้วนเดียวจบไปในที่สุด

บุรีรัมย์ยิงประตูชัยเหนือบางกอกกล๊าสนาทีสุดท้าย

คุณสมบัติของทีมที่จะเป็นแชมป์ลีกได้นั่นคือการเอาชนะในเกมที่สมควรจะต้องชนะ ซึ่งในเกมนัดที่ 28 ของฤดูกาล ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอกันด้วยสกอร์ 0-0 อยู่แล้ว ซึ่งหากจบเช่นนั้น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะขยับแต้มเข้ามาเหลือเพียงแค่ 4 แต้มเท่านั้น

แต่แล้ว ปราสาทสายฟ้า ก็มาได้ สุเชาว์ นุชนุ่ม ที่ลงมาเปิดลูกฟรีคิก ให้ ชาคสัน อเวลิโน โคเอลโญ หรือ "ชาช่า"  โขกประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แม้ว่าจะมีการพูดถึงจังหวะดังกล่าวว่ามีการล้ำหน้าหรือไม่ แต่มันคือประตูชัยของเจ้าบ้านทำให้พวกเขารักษาระยะห่างเอาไว้ได้เหมือนเดิม และทำให้คนที่ตามหลังถอดใจ