ฟุตบอลไทย ฟุตบอลอาเซียน

THE RATINGS: ประกาศผลสอบช้างศึกบุกเผาเครื่องเมียนมาถึงถิ่น

ทีมชาติไทย บุกไปอุ่นเครื่องเอาชนะ เมียนมา ด้วยสกอร์ 3-1 จากการพังประตูของ มงคล ทศไกร และ ธีรศิลป์ แดงดา ก่อนที่เมียนมา จะมาตีไข่แตกจากอองทู สุดท้าย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ยิงจุดโทษเป็นประตูปิดท้ายให้ช้างศึกเอาชนะไปอย่างเด็ดขาด และนี่คือคะแนนความสามารถของนักเตะทุกคนที่ลงสนามในเกมนี้

 

ตัวจริง

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 6 : หายจากอาการบาดเจ็บ กลับมาทวงตำแหน่งมือหนึ่งได้อีกครั้ง ในช่วงต้นเกมไม่ค่อยได้เจองานหนักมาก แต่ก็มีจังหวะอ่านเกมออกมาตัดบอล และจังหวะเซฟลูกยิงของ คยอ โคโค แต่ก็มาพลาดท่าถูก ออง ทู ยิง

นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม 6 : กลับมาลงเล่นในตำแหน่งตัวจริงอีกครั้ง ในช่วงต้นเกมไม่ค่อยมีส่วนร่วมมากนัก เพราะบอลมักจะมาขึ้นทางกราบซ้ายเสียมากกว่า ช่วงครึ่งหลังได้เติมเกมมากขึ้นแต่จังหวะเปิดบอลยังไม่แม่นยำ

อดิศร พรหมรักษ์ 6: ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงแทนที่ของ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ที่บาดเจ็บ ยังยืนตำแหน่ง และอ่านเกมได้ดี ไล่ตามประกบ คยอ โคโค ได้ดีในหลายครั้ง แต่ก็มีส่วนร่วมกับประตูที่เสียไป

พรรษา เหมวิบูลย์ 6 : จากนักเตะโนเนมกลายเป็นขาประจำของทีมชาติไทยไปแล้วในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ เล่นได้ตามมาตรฐาน ไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็น ตลอดเกมจนกระทั่งจังหวะเสียประตูตีไข่แตกให้เมียนมา ที่เข้าถึงบอลช้า

พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา 6 : ลงเล่นแบ็กซ้ายอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ ธีราทร บุญมาทัน คู่แข่งในตำแหน่งนี้ถูกจับโยกไปเล่นกองกลาง หาจังหวะเติมเกมได้เรื่อยๆ

ปกเกล้า อนันต์ 6 : ลงสนามเป็นตัวจริงในนามทีมชาติอย่างต่อเนื่อง ต่อจากเกมออสเตรเลีย ใช้จุดเด่นในเรื่องการสอดทะลุทะลวงได้ดีในหลายครั้ง ครึ่งหลังบทบาทค่อนข้างน้อย แต่เป็นคนเรียกใบแดงจากออง ทูได้

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 7: กองกลางจากเชียงราย ยูไนเต็ด ไม่ได้เป็นคนไล่ดักสกัดทำลายเกมของคู่แข่ง แต่ก็ถอยลงมาคอยคุมจังหวะ ประสานงานกับแนวรับ และช่วยให้ตัวรุกอย่าง ปกเกล้า และ สรรวัชญ์ เติมเกมได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ทำประตูได้ในเกมนี้จากจุดโทษที่เฉียบขาด

มงคล ทศไกร 6.5 : วูบวาบในช่วงแรก ใช้โอกาสไม่เปลืองในการจบสกอร์ ดูเหมือนจะเป็นนักเตะคนโปรดของมิโลวาน ราเยวัช ที่มักจะทำประตูได้เสมอๆ แม้ครึ่งหลังจะค่อยๆหายไปจากเกม

ธีราทร บุญมาทัน 7 : ถูกขยับไปเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ใช้เท้าซ้ายปั่นป่วน แนวรับของ เมียนมาได้ดี มีจังหวะการดึงเกม และจ่ายบอลตามช่องที่คมกริบ ทำให้ไทยได้ประตูออกนำ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกและเป็น สิโรจน์ ฉัตรทอง ที่ลงมาเล่นแทน

สรรวัชญ์ เดชมิตร 6.5 : แม้จะโดนปรามาศว่าเป็นนักเตะประเภทขี้เกียจไม่ค่อยวิ่งหรือเคลื่อนที่ แต่เกมนี้ มิดฟิลด์จากแบงค็อก ยูไนเต็ด เริ่มต้นได้ดี ขยันวิ่งหาช่อง และช่วยเพื่อน ประสานงานกับแนวรุกคนอื่นๆได้ดี แอสซิสต์ประตูที่สองให้ ธีรศิลป์ ได้ยอดเยี่ยม ครึ่งหลังถูกแทนที่ด้วย สุพจน์ จดจำ ที่ได้ลงเล่นในนามทีมชาติเกมแรก

ธีรศิลป์ แดงดา 7.5 : กองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมชาติไทย ในช่วงแรกไม่ค่อยมีบทบาทมาก โดนกับดักล้ำหน้าของ เจ้าบ้านเล่นงานบ้างในช่วงแรก บางครั้งก็ถอนตัวลงมารับบอลต่ำ แต่ก็ยังคงเป็นศูนย์กลางในเกมรุกของไทย ยังคงจบสกอร์ได้อย่างเยือกเย็น และยังมีส่วนกับเกมรุกอยู่เรื่อยๆก่อนถูกถอดออก

ตัวสำรอง

สิโรจน์ ฉัตรทอง 7: ได้โอกาสลงสนามและมีเวลาราวๆ 30 นาที ใช้ความเร็วและความแข็งแกร่ง ป่วนแนวรับเมียนมาทางกราบซ้ายได้ดี และยังสร้างโอกาสทำประตูให้ ทีมได้ แถมยังเรียกจุดโทษให้กับทีมได้

สุพจน์ จดจำ *: ประเดิมสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากที่ระเบิดฟอร์มกับกระบี่ เอฟซี ในไทยลีกสอง แต่การเปิดตัวกลายเป็นฝันร้ายเพราะได้เล่นไม่ถึง 15 นาทีก็ถูกถอดออกจากสนามเพราะบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว (ไม่มีคะแนนความสามารถในนัดนี้)

บดินทร์ ผาลา 7: ได้ลงสนามมาแทนที่ของตัวสำรองอย่าง สุพจน์ จดจำ ที่โชว์ร้ายบาดเจ็บ เล่นต่อไม่ไหว แค่การสัมผัสครั้งแรกก็ช่วยทำให้ ทีมชาติไทยได้จุดโทษทันที จากจังหวะที่จ่ายบอลให้ สิโรจน์ ฉัตรทอง หลุดไปโดนนายทวารเมียนมาเกี่ยวล้มลง

ชาริล ชัปปุยส์*: ได้ลงเล่นให้กับ มิโลวาน ราเยวัช เป็นครั้งแรก ได้โอกาสลงสนามมาในช่วงท้ายเกมมีเวลาไม่เยอะมาก น่าจะถูกส่งลงมาเพื่อปรับจังหวะการเล่นให้เข้ากับทีมมากขึ้น

สุริยา สิงห์มุ้ย*: ลงมาท้ายเกมแทนที่มงคล ทศไกร ไม่ค่อยมีเวลาที่จะทำอะไรมากนัก ทำให้ไม่มีคะแนนในเกมนี้

สุพรรณ ทองสงค์ * : ลงสนามแทนที่ของ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ได้ลงมายืดเส้นยืดสาย ในช่วงท้ายเกม ไม่มีคะแนนความสามารถ