อันดับ 2 ยาซุฮิโตะ เอนโด – กัมบะ โอซากา 150 ล้านเยนต่อปี (44.2 ล้านบาท)
อดีตนักเตะที่มีรายได้มากที่สุดในญี่ปุ่น ที่ 160 ล้านเยนต่อปี (ราว 47 ล้านบาท) เริ่มเส้นทางการเป็นตำนานของทัพเด็กสายฟ้าตั้งแต่ปี 2001 โดยปัจจุบันกองกลางเจ้าของสถิติติดทีมชาติมากสุดที่ 152 เกม ฝากผลงานในสีเสื้อกัมบะไปแล้วถึง 546 เกม ทำไป 103 ประตู กับ 146 แอสซิสต์ กวาดความสำเร็จร่วมกับทีมจากการคว้าแชมป์ 13 รายการตลอดระยะเวลา 17 ปีกับสโมสร
เนื่องจากประสบการณ์ที่สูงและโดดเด่นในระดับแถวหน้าของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ทำให้ซีซันปัจจุบัน กัมบะยังคงพร้อมจะจ่ายเงินค่าเหนื่อยรายปีสูงถึง 150 ล้านเยน หรือเกือบ 44.2 ล้านบาทให้กับเจ้าตัว ที่พร้อมจะสร้างปรากฏการณ์และสานความสำเร็จทั้งในระดับส่วนตัว รวมถึงสโมสรต่อไป
อันดับ 1 เลอันโดร – วิสเซล โกเบ 160 ล้านเยนต่อปี (47.1 ล้านบาท)
เจ้าของสถิติค่าเหนื่อยสูงสุดของเจลีกในยุคปัจจุบัน เริ่มงัดผลงานเด่นกับสโมสรมอนเตดิโอ ยามากาตะ เมื่อปี 2006 จากสถิติซัด 27 ลูกจาก 42 เกม ในเวทีเจทู จนไปเข้าตา วิสเซล โกเบ ทีมอันดับ 3 ที่ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นเจ1ลีก ประกาศดึงมาเสริมทีมในเวลาต่อมา และฉายแววเด่นต่อเนื่องจากสถิติลงสนามช่วยโกเบ 65 เกมกับ 27 ลูก จนมีโอกาสย้ายไปเล่นให้ทีมระดับท็อปกว่าอย่างกัมบะ โอซากา, 2 สโมสรลีกกาตาร์อย่างอัล ซาดด์ และ อัล รายยาน และเมื่อหมดสัญญากับอัล ซาดด์ เป็นคาชิวา เรย์โซล ที่ดึงไปเสริมทีมต่อ พร้อมรับค่าเหนื่อยต่อปีที่ 80 ล้านเยน หรือราว 24 ล้านบาท
กับสีเสื้อเรย์โซล หอกเจ้าของส่วนสูง 176 เซนติเมตรเป็นตัวเลือกลำดับแรกของเนลซินโญ บัปติสตา เทรนเนอร์เพื่อนร่วมชาติ ก่อนจะมีโอกาสย้ายไปร่วมงานกันที่โกเบต่อช่วงกลางซีซัน 2015 และคราวนี้โกเบยอมทุ่มค่าเหนื่อยรายปีสูงถึง 120 ล้านเยน (35 ล้านบาท) เลยทีเดียว และดาวยิงร่างเล็กก็ไม่ได้ทำให้สโมสรต้องผิดหวังในฟอร์มการเล่น หลังเริ่มมาระเบิดฟอร์มโหดในปี 2016 จากผลงานดาวซัลโวที่ 19 ประตู จนได้รับค่าตอบแทนผ่านค่าเหนื่อยในฤดูกาลปัจจุบันถึง 160 ล้านเยน หรือประมาณ 47 ล้านบาทเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ในเจ1ลีก 2017 หอกวัย 32 ปีดันมาโชคร้ายเจ็บเอ็นเข่าซ้ายฉีกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทำให้สโมสรเซ็นสัญญาดึงลูคัส โพดอลสกี มาเสียบโควตาของเจ้าตัวระหว่างรักษาอาการ
