อันดับ 4 (ร่วม) ยาซุยุกิ คอนโนะ – กัมบะ โอซากา 100 ล้านเยนต่อปี (29.4 ล้านบาท)
หลังจากที่มิดฟิลด์ตัวตัดเกมเจ้าของสถิติติดทัพซามูไรบลู 89 นัด ทำผลงานเด่นกับทีมเอฟซี โตเกียว จากการอยู่คว้าแชมป์ร่วมกับทีมมากถึง 5 รายการ ทำให้เขาตัดสินใจย้ายไปหาประสบการณ์ใหม่กับคู่แข่งร่วมลีกอย่างกัมบะ โอซากา เมื่อฤดูกาล 2012 พร้อมค่าเหนื่อยสูงถึง 100 ล้านเยน
แม้ซีซันแรก เขาจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดตกชั้นมาเล่นเจทูในปี 2013 ทว่าคอนโนะและเพื่อนร่วมทีมเด็กสายฟ้ากลับใช้เวลาเพียงปีเดียวในการกลับมาเล่นบนลีกสูงสุดอีกหน และยังคงยืนหยัดในฐานะแข้งตัวตัดเกมให้ทีมมาจนซีซันปัจจุบัน ซึ่งจากความสำเร็จร่วมกับสโมสรอย่างการคว้าโทรฟีกับทีมมาแล้ว 4 รายการ ทำให้เม็ดเงินมหาศาลที่ 100 ล้านเยน ยังคงเป็นตัวเลขที่เขาได้รับจนถึงฤดูกาลปัจจุบัน
อันดับ 4 (ร่วม) จอง เตเซ – ชิมิสุ เอส-พัลส์ 100 ล้านเยนต่อปี (29.4 ล้านบาท)
“รูนีย์เกาหลีเหนือ” เติบโตกับการเล่นฟุตบอลในประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่เป็นเยาวชนและเลือกเข้าเรียนในระบบการศึกษาของคนเกาหลีเหนือที่ใช้ชีวิตในญี่ปุ่น ก่อนจะมีโอกาสลงเล่นในระดับเจ1ลีกหนแรกกับคาวาซากิ ฟรอนทาเล ในวัย 22 ปี และงัดฟอร์มเด่นของตัวเองทั้งการจบสกอร์ที่ไว้ใจได้ บวกกับร่างกายอันแข็งแกร่ง จนมีโอกาสลงสนามให้ทีมในระยะเวลาเกือบ 5 ฤดูกาลไปถึง 133 เกม กับอีก 63 ประตู
และหลังจบเวิลด์คัพ 2010 กับทีมชาติเกาหลีเหนือ เป็นโบคุม ทีมลีกรองเยอรมันที่ยื่นข้อเสนอดึงมาเสริมแกร่ง ซึ่งจอง แต-เซ งัดศักยภาพจนยึดตัวจริงได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก ก่อนจะลงรับใช้ทีมตลอด 2 ซีซันไปทั้งสิ้น 43 เกม ทำ 15 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ และเลือกไปอยู่กับโคโลญจน์ต่อช่วงสั้นๆ และเลือกกลับมาเล่นในเอเชียอีกครั้งในเคลีก กับทีมซูวอน บลูวิงส์ จนมาถึงชิมิสึ เอส-พัลส์ ต้นสังกัดปัจจุบัน โดยมีค่าเหนื่อยในฐานะกัปตันทีมสูงถึง 100 ล้านเยน (ประมาณ 29.4 ล้านบาท) ต่อปี
