วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ออกมายอมรับว่ารู้สึกชินกับการเปลี่ยนแปลงสนามในนัดชิงชนะเลิศของเจ้าภาพจาก บูกิต จาลิล ไป ชาห์อาลัมก่อนแข่งแค่ 2 วัน
ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์เปลี่ยนแปลงสนามฝึกซ้อมมาลงซ้อมที่สนามปาดังโบลาก่อนที่จะลงทำการแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศกับเจ้าภาพมาเบลเซียที่สนามชาห์อาลัมซึ่งมีการประกาศเปลี่ยนแปลงจากเดิมประกาศใช้งานสนามบูกิตจาลิล
“โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกซ้อมได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อม ได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อม โดยแยกนักเตะที่ลงเล่นในเกมกับเมียนมา ทำการวิ่ง จ็อกกิง และยืดกล้ามเนื้อ ส่วนนักเตะที่ไม่ได้ลงสนามฝึกซ้อมการรับส่งบอล และการบีบพื้นที่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
“การเปลี่ยนสนามในนัดชิง เขาก็เปลี่ยนบ่อยอยู่แล้วทั้งเวลาและโปรแกรมเรามีหน้าที่ต้องเล่นอย่างเดีย”
“การเล่นกับอินโดที่ชาห์อาลัม นัดแรกเราเสมอก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้แพ้”
“สำหรับฟอร์มของมาเเลซียเมื่อวาน เขาเป็นทีมที่น่ากลัวอยู่แล้ว เขามีเวลาเตรียมตัวเยอะ แล้วก็เขามีนักเตะที่เราไม่เคยเจอ 2-3 และเขาเป็นเจ้าบ้านด้วย”
“สถิติที่คุมทีมก่อนนี้เคยเจอกันชนะทั้ง 3 ครั้ง สถิติก็คือสถิติตอนที่เราเจอเขา เขายังไม่ได้ใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด ซึ่งในซีเกมส์ครั้งนี้เขาน่าจะใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด”
“สำหรับเรื่องจุดโทษท้ายเกมกับอินโดนีเซียก็ขึ้นอยู่กับธรรมดาเราพยายามจะเล่นให้เคลียร์ที่สุด ส่วนชุดนี้แตกต่างกัยชุดที่เราเพิ่งเจอในเอเอฟซีU23 รอบคัดเลือก”
“เรื่องกรรมการเขาตัดไปเลยดีกว่า ฟุตบอลเดี๋ยวนี้เป็นสากล เขาก็คงจะทำอะไรลำบาก แต่เราก็ต้องระวังตัว”
“ส่วนเรื่องกองเชียร์เด็กน่าจะรับมือไว้ เขาเชียร์เป็นระบบ ไม่ได้ขว้างปาสิ่งของลงมาเหมือนเมื่อก่อน และมันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้เล่นต่อหน้าคนเกือบแสนคน”
“เรื่องการเจอเจ้าภาพมันก็เหมือนเราเป็นเจ้าภาพทุกอย่างเจ้าภาพมันจะได้เปรียบแต่กีฬามันจะต้องมีประเทศเจ้าภาพ แต่เขาก็ไม่ได้บอกเสมอไปว่าเจ้าภาพจะประสบความสำเร็จ”
สำหรับทีมชาติไทย แชมป์ซีเกมส์ 15 สมัยจะลงสนามนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชายในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 29 พบกับ มาเลเซีย เจ้าภาพแชมป์ 6 สมัย ที่สนาม ชาห์อาลัม ในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 19.45 น. (ตามเวลาประเทศไทย)