พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จวกเจ้าภาพ มาเลเซีย ยังไม่ยอมปรับโปรแกรมบอลหญิงซีเกมส์นัดตัดสินให้แข่งพร้อมกัน ทำให้ทีมเสียเปรียบและรู้สึกไม่แฟร์
หลังจากสมาคมกีฬาฟุตบอล แห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือประสานไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกอย่างเป็นทางการถึง 2 ครั้ง นับตั้งแต่ทราบโปรแกรมการแข่งขัน เพื่อแจ้งให้เจ้าภาพพิจารณากำหนดการแข่งขันฟุตบอลหญิงนัดสุดท้าย 24 สิงหาคม สองคู่ในเวลาพร้อมกัน ทว่าดูเหมือนว่าฝ่ายจัดการแข่งขันจะนิ่งเฉย ไม่สนใจคำทักท้วงใดๆจากไทย และยืนยันที่จะจัดการแข่งขันตามเวลาเดิมคือ การแข่งขันระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติฟิลิปปินส์ เวลา 16.00 น. และการแข่งขันระหว่างทีมชาติเวียดนามกับเจ้าภาพมาเลเซีย เวลา 20.45 น. ตามกำหนดการเดิมนั้น
ด้าน พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล กล่าวว่า “ผมและคุณแป้งได้ปรึกษาหารือกันมาตั้งแต่แรก ก่อนซีเกมส์จะเริ่มแข่งขัน เรามีหนังสืออย่างเป็นทางการแจ้งเจ้าภาพแต่เนิ่นๆ แล้วว่า ขอให้พิจารณาโปรแกรมการแข่งขันนัดสุดท้ายใหม่ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับทุกทีม ภายใต้หลักการของกีฬา ที่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเสมอภาค ความเท่าเทียม และยุติธรรม เพื่อให้เป็นไปตามหลักการสากลที่ทั่วโลกปฎิบัติกันมา แต่เจ้าภาพปฎิเสธข้อเสนอของไทย จนกระทั่งล่าสุดไทยกับเวียดนามมีสิทธิ์ลุ้นเหรียญทองเหมือนๆกันในนัดสุดท้ายนี้ เราก็มีหนังสืออีกฉบับเพื่อทักท้วงให้พิจารณาใหม่อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าไม่ได้รับความสนใจ นิ่งเฉย และยังยืนกรานที่จะดำเนินการแข่งขันตามเดิม”
“ ซึ่งเรื่องนี้ผมมองว่ามันไม่เหมาะสม มันไม่อยู่บนหลักการของกีฬา ไม่แฟร์อย่างมากกับทุกทีม เพราะตอน 4 โมงเย็นอากาศที่มาเลเซียร้อนมากจริงๆ มีผลกับเกมส์การแข่งขันแน่นอน และการลงแข่งขันก่อนย่อมเสียเปรียบในเชิงของการวางแผนของคู่ต่อไป มีผลต่อลูกได้เสีย”
“จุดนี้ผมไม่ทราบว่าเจ้าภาพมุ่งหวังชัยชนะหรือเหรียญทองจนลืมถึงเกีบรติยศและศักดิ์ศรีของการเป็นชาติเจ้าภาพที่ดี จริงๆแล้วถ้าผมไม่คำนึงถึงสปิริต หรือจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียของประเทศไทย ผมอยากให้เราถอนตัวจากการแข่งขันจะได้สมใจเจ้าภาพที่กำลังจะเป็นจ้าวเหรียญทองที่น่าภาคภูมิ เพราะการแข่งขันที่มีเกียรติต้องคำนึงถึงทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน และยอมรับฟังกันด้วยเหตุและผล”
“แต่ผมเห็นใจนักกีฬา น้องๆทุกคนตั้งใจมาเล่นกีฬา มาด้วยสปิริตและความมุ่งมั่นทุ่มเท ทุกคนอยากเข้าร่วมแข่งขัน อยากสู้ในสนามให้ถึงที่สุด อยากทำหน้าที่เพื่อชาติ ซึ่งผมก็เห็นด้วยและรู้สึกขอบคุณในสปิริตของนักฟุตบอลทุกคน แค่นี้สมาคมและผมก็ภาคภูมิใจแล้ว” นายกส.บอล กล่าว