สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เตรียมจ่อฟ้องแกนนำฝั่ง N-zone หลังจากเขียนป้ายเชียร์ไม่เหมาะสมทำให้โดนแบนไม่ได้ในสนามเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เกือบ 2 ล้านบาท
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมที่เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้าน เสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1 ได้มีแฟนบอลฝั่ง N-Zone เขียนป้ายเชียร์ด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ทำให้คณะพิจารณาวินัยมารยาทมีบทลงโทษสโฒสรห้ามเล่นในบ้าน 1 นัด และปรับเงินจำนวน 80,000 บาท
ก่อนที่วันนี้ (4 สิงหาคม) ได้มีแกนนำแฟนบอลฝั่ง N-Zone ได้แก่ นายณภัทร โพธิ์ทองนาค อายุ 43 ปี , นายนคร ชื่นคำ อายุ 34 ปี , นายธวัชชัย ตาปนานนท์ อายุ 24 ปี ส่วนอีก 1 คน ไม่ประสงค์ออกนาม ได้เข้ามาให้ปากคำที่ สภอ. ปากเกร็ด
ล่าสุดแหล่งข่าวจากสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ออกมายืนยันว่า ทางสโมสรเตรียมตัวจัดตั้งทนายยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย โดยตั้ง 5 ข้อมาเรียกร้อง โดยมีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านบาท
1.ค่าปรับที่เสียให้กับฝ่ายจัดการแข่งขัน 80,000 บาท – การทำผิดจากข้อความนัดดังกล่าว ส่งผลให้คณะกรรมพิจารณาวินัยและข้อประท้วงสั่งปรับเงินสโมสร 80,000 บาท
2.ค่าเช่าสนามราชมังคลากีฬาสถาน 200,000 บาท – นอกจากโดนปรับเงิน 80,000 บาทแล้ว ยังโดนห้ามเล่นในบ้าน 1 นัด คือ เกมล่าสุดที่ ชนะ ซูปเปอร์เพาเวอร์ 9-1 ซึ่งต้องไปเช่าราชมังคลากีฬาสถาน เป็นรังเหย้าชั่วคราว
3.ค่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย 300,000 บาท – การที่ย้ายไปเล่นที่ราชมังคลาสถาน แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายในการจ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่นั้น ซึ่งจากการที่สร้างเรื่องไว้ ต้องตรวจกันด้วยความเข้มงวด เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งสโมสรก็ต้องยอมรับกับมาตรฐานที่เกิดขึ้น
4.ค่าขายของที่ระลึกหายไป 1,000,000 บาท – เกมที่ย้ายไปเล่นที่ราชมังคลาสถาน สโมสรไม่สามารถที่จะนำของที่ระลึกไปขายได้ ซึ่งปกติแต่ละนัดที่เล่นในบ้าน จะมีมูลค่าในการจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท ตรงนี้สโมสรเสียหายเต็มๆ
5.ค่าบัตรเข้าชมที่ขายได้ หายไป 500,000 บาท – เกมที่พบ ซูปเปอร์เพาเวอร์ มีแฟนบอลเข้าชมแค่ 3,700 คนเท่านั้น ซึ่งแต่ละนัดหากเล่นที่ SCG สเตเดี้ยม มีไม่น้อยกว่า 8,000 คน
ทั้งนี้ แฟนบอลกลุ่มดังกล่าวมีการปฏิเสธ้อกล่าวหา และขอไปสู้คดีในชั้นศาลต่อไป