นอกจากการเปิดตัวเกมแรกของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่สร้างประวัติศาตร์เป็นนักเตะไทยคนแรกในเจลีก 1 หลังออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ในเกมแรก
ยังมีนักเตะอีกคนที่ประเดิมสนามในเกมแรก ด้วยประตูทันทีนั่นคือ เจย์ โบธรอยด์ อดีตกองหน้า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ลุกจากม้านั่งสำรอง แล้วแตะมือกับ ชนาธิป ในนาที 62 ลงมาทำประตู ตอกย้ำชัยชนะ ในนาที 88 ถือเป็นการประเดิม สนามได้อย่างสวยงามไม่แพ้กัน แม้ว่าดาวเตะเลือดผู้ดีวัย 35 ปี จะว่างเว้นจากการลงสนามไปเกือบๆ ครึ่งฤดูกาล
นับตั้งแต่แยกทางกับ จูบิโล อิวาตะ และกลายเป็นนักเตะไร้สังกัด เมื่อจบฤดูกาลก่อน หลังจากที่ช่วยให้ จูบิโล เลื่อนชั้นจาก เจลีก 2 ขึ้นมายัง เจลีก 1 จนกระทั่ง คอนซาโดเล ซัปโปโร ประสบปัญหากองหน้าชาวต่างชาติอย่าง จูลินโญ่ โชคร้ายได้รับบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อม
ซึ่งจากผลงานในการยิงประตูในเจลีก ที่ผ่านมาทำให้ทีมตัดสินใจดึงตัวเขามาร่วมทีมอย่างปัจจุบันทันด่วน ในขณะที่ยังมีโอกาสทำได้นั่นคือตลาดซื้อขายนักเตะก่อนที่จะเปิดเลกที่สอง ทำให้ ได้ตัว เจย์โบ เข้ามาร่วมทีม ซึ่งเขาอาจจะได้ผนึกกำลังกับ เจ ชนาธิป ในการกู้วิกฤตของทีม และหลังจากลงสนามนัดแรกกันไปแล้วทั้งคู่ Football Tribe ได้มีโอกาสพูดคุยกับดาวเตะรายใหม่ของทีม
FBT: กับการเปิดตัวนัดแรกของคุณกับ คอนซาโดเล ที่ซัปโปโร โดม ทุกๆอย่างเป็นอย่างไรบ้าง ?
JAY: สนามยอดเยี่ยมมาก มีแฟน 30,000 กว่าคน ถือว่าเป็นยอดผู้ชมที่สูงมากในเจลีก ดีที่เราสามารถเก็บชัยชนะได้ต่อหน้าแฟนๆ ของเรา เมื่อวานเราเล่นได้ค่อนข้างดีทีเดียว และเกมรุกของเราก็ทำผลงานได้ดีจากการสร้างโอกาสหลายๆ ครั้ง ซึ่งผมเชื่อว่าแฟนบอลน่าจะมีความสุขกับผลการแข่งขันเมื่อวาน
FBT: คุณห่างหายจากการลงสนามไปกว่าครึ่งฤดูกาล แต่ก็กลับมายิงประตูได้ในเกมแรกที่กลับมาลงสนามอีกครั้งคุณรู้สึกอย่างไรบ้าง ?
JAY: เอาจริงๆ นะ ถึงแม้ผมไม่ได้เล่นฟุตบอลมาครึ่งฤดูกาล แต่ผมมั่นใจในความสามารถของผมและเชื่อมั่นในตัวผมเสมอ แต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การช่วยคอนซาโดเร่ซัปโปโร เป้าหมายคือการช่วยให้ทีมอันดับดีขึ้นในฤดูกาลนี้ รู้สึกดีที่ได้กลับมาเล่นในเจลีกอีกครั้ง ผมรู้สึกมีความสุขมาก
FBT:สำหรับเพื่อนร่วมทีมของคุณจากไทยอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ เราเห็นว่าเขาโพสรูปคู่กับคุณในอินตราแกรม หลังจากเอาชนะเกมแรก พวกคุณผ่านการเล่นในสโมสรเดียวกันในไทยอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด แม้จะคนละช่วงเวลา ตอนนี้ได้มาอยู่ทีมเดียวกันแล้วความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่เป็นอย่างไรบ้าง ?
JAY: ชนาธิปเป็นคนที่ดีมาก เราคุยภาษาอังกฤษกันเพราะเขาสามารถพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย ผมก็ได้ให้คำแนะนำเขาเกี่ยวกับการเล่นในเจลีก อย่างเช่น เมื่อไหร่ที่เขาควรจะจ่ายบอล เมื่อไหร่ที่เขาควรจะเลี้ยง เมื่อไหร่ที่เขาควรจะยิง เขาพัฒนาขึ้นทุกวัน ผมคิดว่านี่คือเรื่องที่ดีสำหรับเขาอย่างเห็นได้ชัด และการที่เขาเลือกมาเล่นที่ญี่ปุ่น ซึ่งแตกต่างจากนักเตะไทยคนอื่นๆ ที่ไม่ค่อยออกไปเล่นในต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ถือว่าเขาทำได้ดี เขาทำงานหนัก และพัฒนาการเล่นของตัวเองไปเรื่อยๆ
FBT:คุณสูง 191 ส่วน ชนาธิปสูง 157 ดูเหมือนจะเป็นส่วนต่างที่มากที่สุดในเจลีกเลย คุณคิดว่าเรื่องรูปร่างจะเป็นอุปสรรคสำหรับเขาบ้างไหม ?
JAY: เรื่องรูปร่างอาจจะเป็นปัญหาสำหรับเขานิดหน่อย แต่การเคลื่อนที่ของเขานั้นรวดเร็ว ทั้งจังหวะการหยุดและออกตัว รวมไปถึงการเปลี่ยนทิศทางที่รวดเร็ว เพราะเขาเป็นผู้เล่นที่มีศูนย์ถ่วงต่ำ ซึ่งผมก็คิดว่าเขาเป็นนักเตะที่ดี เขาทำงานหนักในยิมเพื่อที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่ง เขาเล่นได้ดีทั้งสองเท้า จุดเด่นของเขาคือการจ่ายบอล ซึ่งสามารถทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในสนาม ผมคิดว่าเขาจะเป็นนักเตะขวัญใจแฟนๆ ได้
FBT:ความสามารถในการจ่ายบอลและวิสัยทัศน์ในเกมที่เป็นจุดเด่นของชนาธิปจะทำให้เขาประสบความสำเร็จในเจลีกได้ไหม ?
JAY: ฟุตบอลญี่ปุ่นเป็นฟุตบอลที่มีผู้เล่นในตำแหน่งแบ็คที่แข็งแกร่ง แม้ว่าชนาธิปจะมีความเร็ว แต่ว่าตอนนี้เขาอาจจะยังไม่แข็งแกร่งเท่ากับนักเตะเหล่านั้น ผมคิดว่าตำแหน่งกองกลางตัวรุกหมายเลข 10 เป็นตำแหน่งที่เหมาะสำหรับเขา เพราะเขาได้รับอิสระในการเล่น และอยู่ห่างจากจุดที่ใช้ร่างกายปะทะในแนวรับ แต่ว่าโค้ชก็จับให้เขาเล่นในตำแหน่งที่เราเห็นในเกมแรก ซึ่งเชาก็ทำได้ดี
FBT:สำหรับคำถามสุดท้ายคุณทั้งคู่ยังไม่ได้เล่นด้วยกันแบบจริงๆจังๆ เพราะเกมแรกคุณถูกส่งลงสนามไปแทนที่เขา คุณอยากที่จะเล่นร่วมกับเขาในสนามไหม ?
JAY:แน่นอนผมอยากเล่นกับเขา เพราะว่าผมเป็นกองหน้า ผมต้องการคนที่สามารถจ่ายบอลและมีจินตนาการ ซึ่งชนาธิปนั้นมีทั้ง 2 อย่าง ผมคิดว่าเขาควรดูการเล่นของชินจิ โอโนะ เพื่อเรียนรู้การเล่นของเขา เพราะโอโนะ ถือว่าเป็นนักเตะหมายเลข 10 ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น เพราะเขาเคยไปเล่นในยุโรป ซึ่งน่าช่วยชนาธิปได้ แต่ผมก็คิดว่าชนาธิปจะสามารถช่วยทีมและช่วยกองหน้าสร้างโอกาสในการทำประตูได้