เฮดโค้ชช้างศึก เร่งฟื้นฟูร่างกายนักเตะทีมชาติไทยให้กลับมาฟิต พร้อมที่จะพกับเบลารุส ในเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลคิงส์คัพที่จะฟาดแข้งกันในวันพรุ่งนี้
หลังจากทีมชาติไทย สามารถเอาชนะเกาหลีเหนือไปได้แบบขาดลอย 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เบลารุส ในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ได้สำเร็จ
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการแถลงข่าวความพร้อมก่อนเกมการแข่งขันในนัดที่สองฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 โดยมีตัวแทนจาก 4 ทีมเข้าร่วม ณ โรงแรม อัลมิรอส รามคำแหง
โดย มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยได้กล่าวว่า “เมื่อวานนี้ทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เกมที่ง่าย เกาหลีเหนือเป็นทีมที่ดี แต่ก็ดีใจที่ได้เจอกับเกาหลีเหนือ ทำให้เราได้เห็นอย่างมีคุณภาพอีกครั้ง เมื่อวานก็ได้ดูเกม คู่เบลารุส และ บูร์กีนาฟาโซ สองทีมเป็นทีมที่แข็งแกร่งแต่ก็ตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ส่วนตัวจากประสบการณ์ที่เคยทำทีมในแอฟริกามาก่อน ก็เข้าใจกับสภาพนจิตใจของนักเตะในทีม ก็อยากจะบอกว่าทุกคนภูมิใจในตัวนักเตะบูร์กีนาฟาโซ ส่วนเบลาลุส ก็ขอแสดงความยินดีที่เข้ามาในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนหน้านี้เขาก็ได้ชนะบัลแกเลียมาก่อน ซึ่งเราก็ได้ดูเทปการแข่งขันมาแล้ว ทีมเขามีนักเตะหน้าใหม่เพิ่มเข้ามา และน่าจะมีอนาคตสมใสแน่นอน”
“ส่วนทีมชาติไทยเจอบททดสอบที่หนักมากจากเกาหลีเหนือ ซึ่งนักเตะเขามีสภาพร่างกายที่ฟิต วิ่งได้ตลอดทั้งเกม ครึ่งแรกเกือบเสียประตูหลาครั้ง แต่เราก็มาได้ประตูช่วงท้ายครึ่งแรกจากมงคล ก็เป็นประตูที่สำคัญทำให้ครึ่งหลังเราเล่นได้ง่ายขึ้น หลังจากนี้ก็จะเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดในเกมที่จะเจอกับเบลารุส”
“อีกอย่างเราใช้สนามเดียวกันเล่นสองเกมติดต่อกัน สภาพสนามก็อาจจะไม่ได้ดีเท่าในเกมแรก ทำให้เป็นเล่นยากขึ้นกว่าเดิม”
“หลังจากนี้สำคัญที่สุดต้องมีการฟื้นฟูสภาพร่างกายให้ดีที่สุดและพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่แค่ทีมชาติไทย แต่อีกสามทีมก็ต้องฟื้นฟู ถ้าหากฟื้นฟูสภาพร่างกายดีพอ ทำให้เกมการแข่งขันสนุกยิ่งขึ้น” กุนซือช้างศึก กล่าว
ทั้งนี้ทีมชาติไทย จะลงทำการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 นัดชิงชนะเลิศ พบกับทีมชาติเบลารุส ในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม เวลา 19.30 น. ช่องไทยรัฐทีวีถ่ายทอดสด