มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชช้างศึก เผยเตรียมปรับแผนการเล่น เพิ่มเกมรุก และการเล่นแบบเอ็นเตอร์เทรนแฟนบอลมากขึ้น เพื่อผลการแข่งขันที่ดีในศึกคิงส์คัพ 2017
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ วัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี และ มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ได้ออกมาแถลงข่าวฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45
พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า”เดือนกรกฎาคม 2560 นับเป็นเดือนแห่งการจัดการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย เนื่องจากมีรายการสำคัญของปี ถึงสองรายการแข่งขันต่อเนื่องกันให้พี่น้องชาวไทยได้ติดตามเชียร์และส่งกำลังใจให้ทัพช้างศึกอย่างเต็มอิ่ม”
“สำหรับรายการแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 เป้าหมายที่สำคัญที่สุดก็คือการป้องกันแชมป์ถ้วยฟุตบอลของพระราชา สมัยที่ 15 ให้ยังคงอยู่บนผืนแผ่นดินไทย หลังจากปีที่แล้วได้ทำผลงานไว้เป็นอย่างดีด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 44 มาครองโดยส่วนตัวมั่นใจว่าแฟนบอลจะได้เห็นแท็คติกใหม่ๆที่มีความละเอียดไปอีกขั้นของโค้ชราเยวัช หลังมีเวลาเตรียมทีม มากขึ้นกว่าสองเกมแรก และฝีเท้าของนักเตะเลือดเก่าและเลือดใหม่ที่จะต้องผนึกกำลังกันเพื่อคว้าแชมป์มาให้พี่น้องชาวไทยได้ร่วมภาคภูมิใจกันอีกหนึ่งสมัย”
ด้าน เฮดโค้ชช้างศึก กล่าวว่า “สำหรับการแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ เป็นถ้วยที่สำคัญมากสำหรับชาวไทย ส่วนทีมที่มาก็มีแรงกิ้งที่ดี และความสามารถที่ดีกว่าเรา ซึ่งเราจะตั้งใจแสดงศักยภาพออกมา เพื่อให้รู้ว่าเราสามารถสู้กับทีมระดับโลกได้เหมือนกัน”
“แฟนๆอยากจะเห็นเราเปิดเกมรุกมากขึ้น แต่ต้องบอกว่าสองเกมแรกที่เราเจอกับอุซเบกิสถานและ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สองทีมนี้เขามีแรงกิ้งที่สูงกว่าเรา และศักยภาพทีมดีกว่าดังนั้น เราจำเป็นต้องเล่นเกมรับเพื่อผลการแข่งขันที่ดี ซึ่งต่อจากนี้เราจะปรับปรุงเกมรับให้ดีขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงเกมรุกหรือการโต้กลับ เราเล่นเพื่อผลการแข่นขัน แต่ขอสัญญาว่าจะพยายามเปิดเกมรุก และเล่นบอลเอ็นเตอร์เทรนแฟนบอกให้มากขึ้นกว่านี้”
ทั้งนี้การแข่งขันฟุตบอชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ จะทำการแข่งขันนัดแรกในวันที่ 14 กรกฎาคม โดยคู่แรก เบลารุส พบ บูร์กินาฟาโซ ในเวลา 16.00 น. และทีมชาติ พบ เกาหลีเหนือ ในเวลา 19.00 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน