เอเชีย ฟุตบอลญี่ปุ่น

THE JOURNEY CHANATHIP : ค่อยๆเดินอย่างช้าๆ ดีกว่ารีบวิ่งแล้วหกล้ม

ประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่อง เกมส์, การ์ตูน, อาหาร และ วัฒนธรรมแล้ว พวกเขายังเป็นประเทศที่เผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวบ่อยที่สุดในโลก และก่อนกลับบ้านไม่กี่วันผมก็มีโอกาสได้รับประสบการณ์แผ่นดินไหวเป็นครั้งแรกในชีวิต ขนาดนั่งทำงานอยู่ที่ชั้น 1 ของบ้านยัง รู้สึกได้ถึงความสั่นไหวในระดับบ้านสั่น แต่สอบถามเจ้าของบ้านที่ผมมาพักอาศัย ได้ความว่า เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นประจำ และ ทุกบ้านและสิ่งก่อสร้างมีโครงสร้างที่สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ แต่มันก็ทำให้หัวใจเต้นโครมครามก่อนนอนเอาเรื่องทีเดียว

ก่อนที่เช้าวันอาทิตย์จะต้องตื่นเพื่อเดินทางไปยัง สนาม มิยาโนะซาวา สนามฝึกซ้อมของคอนซาโดเล ซัปโปโร ที่ผมเห็นความคึกคักเป็นประจำในช่วงเช้าวันหยุดที่ทีมมีการฝึกซ้อม อาจจะเพราะว่าเป็นวันหยุด และอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมือง วันนี้แฟนบอลเข้ามาชมการฝึกซ้อมในเกมอุ่นเครื่องแบบหนาตาที่สุดในรอบๆ เกือบ 2 สัปดาห์ที่มาเกาะติดการย้ายทีมของ ชนาธิป เลยก็ว่าได้

ซึ่ง คอนซาโดเล ซัปโปโร มีโปรแกรมลงล่นเกมอุ่นเครื่องกับทีม มหาวิทยาลัยซัปโปโร โดยเกมนี้ เทรนเนอร์ของทีมอย่าง ชูเฮ โยโมดะ ใช้นักเตะชุดที่เล่นในฟุตบอลถ้วย ลูวาน คัพ อย่าง ชินจิ โอโนะ, ฮิโรยูกิ มาเอะ ที่เคยไปค้าแข้งกับ ขอนแก่น เอฟซี และ คิม มิน แต ที่ได้ลงเล่นในช่วงครึ่งหลังของเกมเจลีกวันเสาร์ลงสนาม และได้ให้ ชนาธิป ลงเล่นในตำแหน่งกองกลางก่อนในครึ่งแรก

แต่สิ่งที่ผมสังเกตุเห็นก่อนจะเริ่มเกม วันนี้สนามด้านข้างถูกทำให้แคบลงกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะให้นักเตะได้ประหยัดแรง และต้องการให้มีพื้นที่เล่นน้อยเพื่อพัฒนาการเล่นในที่แคบ เพิ่มเติมด้วย และการแข่งขันก็ไม่ยาวนักเพียงแค่ครึ่งละ 30 นาทีเท่านั้น

เกมนี้ ชนาธิป ได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งน่าจะเป็นตำแหน่งแรกในใจของกุนซือที่ต้องการจะใช้งานเขา สำหรับฟอร์มการเล่นอย่างที่หลายคนได้เห็นจากการไลฟ์สดของ Football Tribe และครึ่งหลังก็ถูกขยับขึ้นไปยืนตำแหน่งกองหน้าแม้ไม่ใช่ตำแหน่งถนัดแต่ก็ ทำให้ได้มีโอกาสสร้างเกมรุกเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย รวมไปถึงจังหวะยิงไกลที่ติดเซฟของผู้รักษาประตูไปหนึ่งครั้ง

ส่วนการเลือกทีมจากระดับมหาวิทยาลับมาอุ่นเครื่องนั้น ไม่น่าจะเป็นการดูถูกนักเตะในทีมตัวเอง เพราะจุดประสงค์ของการอุ่นเครื่องไม่ใช่การคาดหวังเรื่องชัยชนะ แต่เป็นกรได้ลองระบบการเล่น และจากที่ได้เห็นฟอร์มการเล่นของทีมมหาวิทยาลัยซัปโปโรแล้วก็ไม่ใช่ธรรมดา เพราะสู้กับทีมในระดับอาชีพได้สนุกทีเดียว

สำหรับเกมอุ่นเครื่องวันนี้ หลายคนในคอมเม้นท์ พูดถึงการมีส่วนร่วมในเกมของชนาธิป ซึ่งจากที่ผมเห็น เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับว่า ฟอร์มของดาวเตะจากไทยไม่เหมือนตอนที่เล่นให้กับเมืองทองหรือทีมชาติ แต่หากมองไปลึกในรายละเอียดแล้ว เจ แทบจะไม่เสียบอลเลย ในการได้บอลแต่ละครั้งจากเพื่อนร่วมทีมเขาก็แทบจะไม่เสียบอลให้เห็น และพยายามที่จะเล่นให้เข้ากับระบบของทีมให้ได้ โดยไม่แตกแถว ด้วยการใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการเลี้ยงกินตัวหรือจ่ายบอลทะลุทะลวงแต่เสี่ยงที่จะเสียบอลซึ่งกุนซือของทีมน่าจะมองเห็นตรงนี้ถึงได้ให้คอมเม้นท์เชิงชื่นชมว่า นักเตะชาวไทยพยายามปรับตัวเข้ากับระบบของทีม

ส่วนเจก็ดูจะยังไม่ค่อยพอใจกับฟอร์มของตัวเองนัก จากการให้สัมภาษณ์หลังจบเกม ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ตัวนักเตะเข้าใจในสถานการณ์ของตัวเอง และรู้ว่าจะต้องเตรียมตัวรับมืออย่างไรในครั้งต่อๆไป ที่จะต้องเจอเกมที่ยากขึ้น และยากขึ้นไปอีกจนถึงวันแข่งจริงที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

ต้องไม่ลืมว่า นี่คือการย้ายมาเล่นต่างแดนครั้งแรกของชนาธิป กับทีมใหม่ เพื่อนร่วมทีมใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ ภาษาใหม่ วัฒนธรรมใหม่ ด้วยเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ ถ้าจะให้งัดเอาฟอร์มเทพออกมาโชว์เหมือนตอนอยู่ไทย ที่ทุกๆอย่างเป็นเรื่องคุ้นเคยมาทั้งชีวิตมันคงเป็นไปได้ยาก ถือเป็นเวลาของการเรียนรู้และปรับตัว

แน่นอนว่าการค่อยๆเดินไปอย่างมั่นคงและช้าๆ ก่อนที่จะรีบวิ่งทั้งๆที่หลักยังไม่ดี น่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่า ตอนนี้เพียงแต่ให้เวลาได้พิสูจน์ความอดทน

สำหรับเช้าวันจันทร์ ทีมไม่มีการฝึกซ้อม เพราะสโมสรบ่อยให้นักเตะพักทำให้ภารกิจในการเกาะติดชนาธิป สรงกระสินธ์ ใกล้ที่จะสิ้นสุดลง ก่อนที่ผมจะเดินทางกลับประเทศไทย ในวันอังคาร แต่ว่าข่าวสารของ เมสซี่เจ จากญี่ปุ่นยังคงติดตามทาง Football Tribe ได้ตลอด เพราะสำนักงานใหญ่ของเราตั้งอยู่ที่เมืองนี้ เพราะฉะนั้นแฟนๆไม่ต้องห่วงเรื่องความต่อเนื่อง สำหรับวันพรุ่งนี้ผมจะแนะนำสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดหากมาเชียร์ชนาธิป ที่ซัปโปโร