เลิกเล่นแบบติ๊กต๊อก
ในตอนที่ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คุมทีมอยู่นั้น แฟนบอลมักจะได้เห็นการต่อบอลสั้นๆ ของทีมในรูปแบบการครองเกมที่คล้ายๆกับการเล่นแบบ ตีกี-ตากา ที่เน้นการจ่ายบอลสั้นๆ และครองบอลไว้กับทีมมากๆ แบบที่ บาร์เซโลน่า นั้นชอบที่จะใช้ และกุนซือชาวไทย เรียกระบบการเล่นนี้ในแบบของตัวเองว่าการเล่นแบบ ติ๊กต๊อก ไทยแลนด์ ซึ่งเคยเขย่า เวทีอาเซียนมาแล้วในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ เมื่อปี 2014 ซึ่งมันแทบจะใช้ไม่ได้เลย ในการเล่นกับ ทีมที่เหนือกว่าในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
ในเกมแรกทีมชาติไทยที่แม้ว่าจะพ่าย ยูเออี มาด้วยสกอร์ 3-1 แต่ว่า มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่สูงถึง 45.8% และต่อบอลได้มากถึง 383 ครั้ง และมีการเล่นบอลยาวแค่ 16.2% เท่านั้น
ส่วนในเกมล่าสุดนี้ เปอร์เซ็นต์การครองบอลของทีมชาติไทย ลดลงมาเหลือแค่ 35.3 % เท่านั้น และการต่อบอลลดลงมาเหลือที่ 278 ครั้ง และเปอร์เซ็นต์การต่อบอลยาวเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยเป็น 21.6 %
ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงการเล่นในยุคของราเยวัช ที่ไม่ได้สนใจถึงเรื่องการครอบครองบอล เพราะว่าเปอร์เซ็นต์การครองบอลไม่ได้ทำให้ทีมชนะ แต่การจ่ายบอลแบบมีประสิทธิภาพ ต่างหากคือกุญแจไปสู่ความสำเร็จ โดยที่ไม่ต้องครองบอลมากมาย