ทีมชาติไทย ภายใต้การนำทีมของ มิโลวาน ราเยวัช ที่ประเดิมสนามคุมทีมเป็นครั้งแรกในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก เกือบที่จะสร้างประวัติศาสตร์ คว้าชัยชนะ เกมแรกให้แฟนบอลชาวไทยได้ หลังจากที่ มงคล ทศไกร ยิงประตูให้ทีม ออกนำ ยูเออี แต่ก็มาโดน อาลี มาบคุต ยิงตีเสมอ ในช่วงท้ายเกม ทำให้ชวดโอกาสคว้าสามแต้มแรกไปอย่างน่าเสียดาย และนี่คือ คะแนนความสามารถของนักเตะทุกคนในเกมนี้
ตัวจริง
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 7 : สวมปลอกแขนเดินนำลูกทีมลงสนาม ในช่วงต้นเกม ยังไม่เจอกดดันมาก แต่ก็ยังมีสมาธิและสั่งการแนวรับได้อย่างดี โดยเฉพาะการพุ่งเซฟลูกฟรีคิก ในช่วงท้ายเกม แต่ก็พลาดเสียประตูจนได้ ในช่วงท้ายเกมทำให้ไทยต้องรอชัยชนะเกมแรกในประวัติศาสตร์ต่อไป
อดิศร พรหมรักษ์ 7 : ถูกวางไว้ให้เล่นตำแหน่งแบ็กขวา คุมพื้นที่ของตัวเองได้ดี และหุบเข้าไปช่วยสกัดบอลอันตรายในพื้นที่ของเซนเตอร์ฮาล์ฟ ได้ดี จังหวะเติมเกมรุกยังไม่โดดเด่นมาก แต่รับผิดชอบหน้าที่หลักของตัวเองได้ดี
เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว 6 : เล่นได้นิ่งจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นเกมทีมชาติครั้งที่ สองของตัวเอง และเป็นครั้งแรกในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ต่อหน้าแฟนบอล เข้าสกัดบอลสวยๆได้หลายจังหวะ แต่น่าเสียดายที่ท้ายเกมช่วยรักษาคลีนชีตเอาไว้ไม่ได้
พรรษา เหมวิบูลย์ 6 : ปรากรารหลังร่างโย่ง ลงประเดิมสนามในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกต่อหน้าแฟนบอลเป็นครั้งแรก เล่นได้สุขุม ประสานงานในเกมรับกับ เฉลิมพงษ์ได้ดี ใช้รูปร่างที่สูงใหญ่ให้เป็นประโยชน์ในการช่วยสกัดบอลลูกกลางอากาศ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถช่วยทีมชาติไทยรักษาคลีนชีตเพื่อเก็บสามแต้มแรกในรอบนี้ได้
พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา 7 : ถูกปรับลงมายืนตำแหน่งแบ็กซ้าย ทำหน้าที่เกมรับของตัวเองได้ดี ไม่ปล่อยให้ปีกของยูเออี ลากเลื้อยกินตัวได้ง่ายๆ และดักตัดบอลสวยๆได้หลายจังหวะ รวมไปถึงยังเป็นคนเติมเกมรุกขึ้นมาแอสซิสต์ ประตูให้ มงคล ทศไกร ยิงประตูออกนำ
ธนบูรณ์ เกษารัตน์ 6 : ถือว่าไม่โดดเด่นมากนัก แต่ยังยืนตำแหน่งรักษาพื้นที่ในเกมรับ และช่วยซ้อนเกมรับได้ดี เมื่อแนวรุกยูเออี จะพยายามตัดบอลเข้าตรงกลางจากริมเส้น ในการกลับมา ยืนตำแหน่งกองกลางตัวรับที่ตัวเองถนัดที่สุดอีกครั้ง
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 8 :รับบทกองกลางตัวรัล เล่นได้อย่างโดดเด่นที่สุดในช่วงต้นเกมของทีมชาติไทย เป็นมิดฟิลด์ประเภทไดนาโม ที่วิ่งได้ไม่มีหมด คอยไล่ทำลายเกมคู่แข่งและยังพาบอลทะลุทะลวงไปข้างหน้าได้ด้วย เกมนี้โดดเด่นในเรื่องการเข้าสกัดและแย่งบอลจากเท้าของคู่แข่งจนแนวรุก ยูเออี ทำอะไรได้ไม่ถนัด และสร้างเกม ถือเป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นตลอดทั้งเกม
สรรวัชญ์ เดชมิตร 6 :ถูกวางบทบาทไว้ให้เป็นกองกลางตัวรุก แต่ยังไม่มีจังหวะพาบอลไปข้างหน้ามากหนัก และบางจังหวะเล่นยากจน การขึ้นเกมเสียจังหวะ ไปบ้าง ช่วงท้ายเกมใช้บอลยาวจู่โจมแนวรับได้น่ากลัว จนยกระดับฟอร์มที่เนือยๆจากครึ่งแรกขึ้นมาได้บ้าง
มงคล ทศไกร 7 : ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอย่างค่อนข้างเซอร์ไพรส์ เพราะเกมที่ผ่านมาในการอุ่นเครื่องกับอุซเบกิสถานไม่ได้มีส่วนร่วมแม้แต่นาทีเดียว ช่วงเริ่มต้นเกมยังทำได้ไม่ดีนัก แต่พอเริ่มปรับตัวได้ก็มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากขึ้น และเป็นอีกครั้งที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา จนยิงประตูให้ทีมได้ จากนั้นความมั่นใจมากขึ้น และยังขยันไล่บอลตลอด
สิโรจน์ ฉัตรทอง 6 : มีส่วนร่วมกับเกมรุกในช่วงต้นเกมค่อนข้างเยอะ เพราะเพื่อนร่วมทีมมักจะทิ้งบอลมาให้ใช้ความแข็งแกร่ง เก็บบอลไว้ ซึ่งถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่บางครั้งยังไม่สามารถเอาชนะตัวประกบในจังหวะดวลตัวต่อตัวได้ ถือว่าสร้างโอกาสได้น้อยสำหรับตำแหน่งแนวรุก
อดิศักดิ์ ไกรษร 7 :ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริง แทนที่ของ ธีรศิลป์ แดงดา เก็บบอลได้ดี และเล่นได้แข็งแกร่งในช่วงต้นเกม พาบอลไปข้างหน้าได้ดี สร้างโอกาสให้กับทีมได้หลายจังหวะ โดยเฉพาะจังหวะโหม่งลูกเตะมุมที่เกือบเป็นประตู โดยรวมถือว่าทำหน้าที่ได้ดี
ตัวสำรอง
นูรูล ศรียานเก็ม, วัฒนา พลายนุ่ม และ บดินทร์ ผาลา : ทั้งหมดลงมาในช่วงท้ายเกมทำให้ไม่มีส่วนร่วมกับเกม