พรรษา เหมวิบูลย์ กองหลังทีมชาติไทย เปิดเผยความรู้สึกหลังลงประเดิมสนามให้ทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมอุ่นเครื่องกับ อุซเบกิสถาน ว่าเสียดายที่ คุณพ่อของตัวเองไม่ได้อยู่เห็น
เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 26 ปี ได้รับโอกาสติด ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ครั้งแรก ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณพ่อของเขาอยากที่จะเห็นมาตลอดก่อนที่จะเสียชีวิต ซึ่งในที่สุด เซนเตอร์จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้ทีมชาติไทยครบ 90 นาที ในเกมอุ่นเครื่องที่บุกไปพ่าย อุซเบกิสถาน 0-2
“พอใจฟอร์มส่วนตัวแค่ระดับหนึ่งครับ โดยรวมยังมีข้อผิดพลาด ยังไม่ดีและน่าจะดีได้กว่านี้ครับ” พรรษากล่าวถึงฟอร์มการเล่น
“ผมเล่นกองหลัง ผมคิดเสมอว่าถ้าไม่เสียประตู นั่นคือประสบความสำเร็จ แต่เกมนี้ก็ถือว่าใช้ได้ครับ เพราะเราเพิ่งรวมตัวกัน จากนี้ต้องเอาจุดบกพร่องกลับไปแก้ไขครับ และเกมนี้ผมให้ตัวเองแค่ 5 เต็ม 10 เท่านั้นครับ”
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการทำให้ความฝันของคุณพ่อที่เสียชวิตไปแล้วเป็นจริงคือการลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่
“ตอนพ่ออยู่ พ่ออยากเห็นความสำเร็จของผม อยากเห็นผมเติบโตขึ้นเป็นนักฟุตบอลอาชีพ อยากเห็นผมเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ เขาเคยพูดเสมอว่าเมื่อไหร่จะติดทีมชาติ พ่ออยากเห็นผมติดทีมชาติตั้งแต่เด็กๆครับ ผมว่าความสุขของเขาคือการเห็นผมเล่นฟุตบอลครับ”
“วินาทีที่ติดทีมชาติ ผมบอกตรงๆว่าช็อคมากครับ ผมนึกถึงพ่อขึ้นมาทันที ถ้าตอนนี้พ่ออยู่ พ่อคงดีใจมากๆครับ ที่วันนี้ผมก้าวลงสนามในฐานะนักฟุตบอลทีมชาติได้สำเร็จ และมันเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตของผมรวมถึงครอบครัวครับ”
“จากนี้ผมจะทำงานหนักต่อไป ทำงานให้หนักขึ้นไป เพื่อรักษาโอกาสตรงนี้ไว้ครับ” พรรษาปิดท้าย
สำหรับ ทีมชาติไทย จะเดินทางกลับถึงประเทศไทย วันที่ 8 มิถุนายนนี้ และจะมีการตัดตัวผู้เล่นใหม่อีกครั้ง ก่อนเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 8 วันที่ 13 มิถุนายน