ภายหลังจากที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ทำการแยกทางกับ โรเจอริโอ คูตินโญ ปีกจอมพริ้วชาวบราซิล ที่เจออาการบาดเจ็บเล่นงานจนทำให้ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งมาลงสนามช่วยทีมได้ ทำให้โควตานักเตะต่างชาติว่างลง
และด้วยยี่ห้อ “ปราสาทสายฟ้า” ที่คิดเร็วทำเร็ว หลังจากที่แยกทางกับนักเตะคนเก่า พวกเขาได้ แข้งใหม่เข้ามาเสริมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้ ราฟาเอล บาสโตส ปีกชาวบราซิล ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์ลีกโรมาเนีย และ ผ่านการลงเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกมาแล้ว เข้ามาเสริมทัพเรียบร้อยแล้ว และนี่คือ 10 เรื่องน่ารู้ของ แนวรุกคนใหม่แห่งถิ่นไอโมบาย
1. ปฐมบท
ราฟาเอล บาสโตส เริ่มต้นการค้าแข่งกับทีมในบ้านเกิดประเทศบราซิลอย่าง ทีมบาเฮีย ปี 2007 ก็ถูก เบเลเนนส์ ทีมในโปรตุเกส ยืมตัวมาใช้งาน และมีโอกาสลงสนาม 12 เกม เมื่อเข้าสู่ปี 2008 บาสโต๊ส ก็ย้ายมาร่วมทีม ซีดี นาซิอองนาล อีก 1 ทีมของลีกสูงสุดประเทศโปรตุเกส จากนั้นในปี 2009 บาสโต๊ส ต้องเก็บกระเป๋าไปเรียกความมั่นใจในลีกสูงสุดที่บ้านเกิดอีกครั้งกับ ทีมวิคตอเรีย
2. ผ่านการค้าแข้งกับ คอนซาโดเล ซัปโปโร
หลังจากที่เล่นให้กับ วิคตอเรีย ในลีกสูงสุดของบราซิล ราฟาเอล บาสโตส ได้มีโอกาสไปเล่นในเจลีกกับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ว่าที่ทีมใหม่ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลาง เมืองทอง ยูไนเต็ด ในช่วงปี 2009 และได้ลงสนามไป 17 เกม และยิงไป 1 ประตู
3. ถนัดทั้งสองเท้า
ว่าที่แข้งใหม่ของปราสาทสายฟ้าสามารถใช้เท้าได้ดีทั้งสองเท้า โดยที่ไม่มีเท้าข้างที่ถนัด ทำให้สามารถเลี้ยงบอลและยิงได้จากทั้งซ้ายและขวา
4. สารพัดประโยชน์ในแนวรุก
ปีกวัย 32 ปีที่มีตุดเด่นคือสามารถเล่นได้ดีทั้งสองเท้า ทำให้เขาสามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งกองกลางตัวรุก และปีกทั้งสองข้างรวมไปถึงตำแหน่งกองหน้าก็ยังสามารถเล่นได้
5. คว้าแชมป์ลีกสูงสุดโรมาเนีย
หลังจากทำผลงานน่าประทับใจกับ บราก้า ทีมในลีกสูงสุดโปรตุเกส ทำให้ ซีเอฟอาร์ คลูจ์ ทีมดังจากโรมาเนีย ซื้อตัวเขามาร่วมทีม และเขาสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกโรมาเนีย ได้ในปี 2011 มาครองได้อีกด้วย
6. ผ่านเวที ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
หลังช่วย ซีเอฟอาร์ คลูจ์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของ โรมาเนีย ทำให้ได้สิทธิ์ เข้าไปเล่นในศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก และเขาสามารถยิง 2 ประตูใส่ทีมเก่าอย่าง บราก้า ทีมเก่าได้อีกด้วย
7. ทำแอสซิสต์เกมดับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
และจากประสบการณ์ในการลงล่นเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มในปี 2012–13 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีมอยู่ ราฟาเอล บาสโตส นั้นช่วยให้ ซีเอฟอาร์ คลูจ์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกจากโรมาเนียที่ บุกไปเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ถึงโอลด์แทรฟฟอร์ดด้วยสกอร์ 1-0 เมื่อจ่ายบอลให้ หลุยส์ อัลเบโต ซัดประตูชัย
8. ค่าตัวเกือบสามล้านปอนด์
ในปี 2013 ราฟาเอล บาสโตส ได้กลายเป็นนักเตะค่าตัวมูลค่ากว่า 2,980,000 ปอนด์ หรือราว 131,120,000 บาท จากการย้ายจาก ซีเอฟอาร์ คลูจ์ ไปร่วมทัพ อัล นาเซอร์ (ริยาด) ทีมดังแห่งซาอุดิอาระเบีย ซึ่งก็มีโอกาสลงสนาม 20 นัด ยิงไป 11 ประตู
9. เฉียดตายกับชาเปโคเอนเซ่
ในปี 2016 ราฟาเอล บาสโตส ย้ายไปค้าแข้งให้กับ ชาเปโคเอนเซ่ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ ฮัทต้า ในลีกยูเออี เพียงแค่ 1 เดือนก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารจอง ชาเปโคเอนเซ่ ตกที่ประเทศโคลอมเบีย
10. เบอร์ 16 หมายเลขเก่ง
ราฟาเอล บาสโตส มักจะสวมเสื้อหมายเลข 16 ลงสนามเสมอไม่ว่าจะเล่นให้ที่ไหน แต่ก็เคยใส่เบอร์ 85 ลงเล่นให้ ชาเปโคเอนเซ่ ในฤดูกาลแรกก่อนเปลี่ยนมาใส่เบอร์ 16 รวมไปถึงเบอร์ 10 ที่ใส่ลงเล่นให้ คอนซาโดเล ซัปโปโร ซึ่งหมายเลข 16 และ หมายเลข 10 ในทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นของ กรวิทย์ นามวิเศษ และ จักรพันธ์ แก้วพรม