สตีฟ ดาร์บี้ อดีตกุนซือผู้พาทีมชาติไทยตกรอบแรกซีเกมส์ครั้งแรกในรอบ 36 ปี ออกมาแนะนำคุณสมบัติหัวหน้าโค้ชทีมชาติคนใหม่ในเชิงเหน็บแนม
ในขณะที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กำลังตามหากุนซือคนทีมคนใหม่เข้ามาแทนที่ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ประกาศลาออกไป จนมีผู้จัดการทีมระดับโลกหลายคนได้ส่งโปรไฟล์ เข้ามาขอคุมทีมเป็นจำนวนมาก
สตีฟ ดาร์บี้ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่เคยพาทีมชาติไทยตกรอบแรกซีเกมส์เป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี เมื่อปีสมัยคุมทีมเมื่อปี 2009 ได้ออกมาเสนอแนะเชิงประชดประชันถึงคุณสมบัติของเฮดโค้ชคนใหม่ของช้างศึกไว้ว่าควรมีคุณสมบัติ 5 ข้อดังนี้
1 รู้จักวัฒนธรรม
มันยากสำหรับคนต่างชาติ ที่จะเข้าใจวัฒนธรรมไทยทั้งหมด แต่มันสำคัญมากที่จะต้องพยายามปรับตัว ไม่มีคนนอกคนไทยที่จะ “เปลี่ยนแปลงคนไทยได้” เหมือนอย่างที่มีคนพูดถึงผมบ่อยๆ เรื่อง “การเสียหน้า” ในสังคมซึ่งมันเหมือนเป็นสิ่งสำคัญในสังคมไทย อย่างเช่น คุณตำหนินักเตะต่อหน้าสื่อมวลชน พวกเขาก็จะไม่สนับสนุนคุณอีก หากจะทำแบบส่วนตัวนั้นไม่มีปัญหาแต่ไม่ใช่ต่อหน้าคนอื่นๆ และอย่ายุ่งกับหัวหน้า พวกเขาอาจจะหาทางแก้แค้นคุณ
2 เคารพพลังของสื่อมวลชน
สื่อใหญ่ๆของประเทศไทยสามารถชี้ไม้เป็นนก ชี้นกเป็นไม้ได้ ผมรู้จากประสบการณ์ส่วนตัว ถ้าคุณทำให้ นักข่าวรุ่นใหญ่ “เสียหน้า” นั่นสามารถทำลายโค้ชคนหนึ่งได้เลย รวมไปถึงผลการแข่งขันที่คาดไม่ถึงด้วย ด้วยพลังของโซเชียลมีเดียที่กำลังเติบโต มีคลื่นแห่งความไม่พอใจ หรือหนุนหลัง นั่นสามารถยืนยันได้ถึงพลังของชาวเน็ตได้ โค้ชของไทยหลายคนถูกพลังของสื่อไทยกดดันแม้ว่าพวกเขาจะพาทีมเอาชนะได้ก็ตาม
3 สร้างสุดยอดนักเตะอาเซียน
นักเตะไทยขึ้นชื่อว่าสุดยอดอยู่แล้ว พวกเขามีพรสวรรค์ ทำงานหนัก และแข็งแกร่ง ทั้งในและนอกสนาม การซ้อมกับทีมชาติถือเป็นเกียรติพวกเขาพร้อมจะมอบทุกอย่าง พวกเขาฉลาดและพร้อมพัฒนาตัวเอง ค่าแรงของพวกเขาพุ่งขึ้นอย่างมาก ในช่วงปีหลังๆที่ ช่วงที่ซิโก้เข้ามาคุมทีม บางครั้งนักเตะอาจจะเจอปัญหาการเล่นเกมเยือนโดยต้องเดินทาง 32 ชั่วโมง และอยู่ที่สนามบินอีก 10 ชั่วโมงเพื่อรอต่อเครื่อง
4 รับมือกับความคาดหวังที่เกินจริง
ไม่ว่าผลงานของโค้ชคนใหม่จะเป็นอย่างไร พวกเขาจะเจอกับแรงคาดหวังที่เกินจริงในแบบเดียวกัน ซิโก้คว้าแชมป์ซีเกมส์ และ แชมป์ซูซูกิคัพ 2 สมัย และพาทีมเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายฟุตบอลเอเชี่ยนส์เกมส์ และทำให้ไทยเป็นชาติเดียวในอาเซียนที่ผ่านเข้ารอบที่ 3
ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย แม้ว่าเขาจะพาทีมประสบความสำเร็จแบบสุดยอด แต่ว่าผู้บริหารระดับสูงของไทยยังบอกว่ารู้สึก “อับอาย” กับผลการแข่งขัน แม้ว่าโค้ชใหม่จะเคยชูถ้วยแชมป์โลกมาแล้ว เขาก็อาจจะล้มเหลวเข้าซักวัน
5 เอาทีมงานมาเอง
โค้ชคนใหม่จะต้องเอาทีมงานของเขามาเอง คนที่ซื่อสัตย์ไว้ใจได้ ในตอนที่ผมคุมทีม เรามีทีมงานที่ยอดเยี่ยม ซึ่งโชว์ความเป็นมืออาชีพ และความจงรักภักดี (ซิโก้ เป็นผู้ช่วยของผมในซีเกมส์ 2009) แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ ทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชจะถูกเสนอโดย สมาคมฟุตบอลไทย จากประสบการณ์ของผม สต๊าฟฟ์ บางคนนอกจากไร้ประโยชน์โดยสิ้งเชิงแล้ว พวกเขายังคอยรายงานทุกอย่างไปยังสมาคมโดยตรงทำให้งานของโค้ชยากขึ้นไปอีก
แม้ว่าความท้าทายที่คล้ายกับเป็นกับดักนี้ ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ดี ด้วยพลังสนับสนุนของแฟนบอล และนักเตะที่มีพรสวรรค์ ทีมชาติไทยควรที่จะได้สุดยอดโค้ช เพื่อที่จะสามารถสานงานต่อจากที่ซิโก้ทำเอาไว้ได้