ฟุตบอลไทย

ไม่ได้มีปัญหา!นายกเปิดใจทุกคำถามหลังซิโก้ประกาศแยกทางช้างศึก

พล...สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

โดยนายก ส.บอลไทยได้เดินทางไปร่วมงานมอบรางวัล วันนักกีฬายอดเยี่ยม ประจำปี 2559  ที่โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ  และได้ถูกกองทัพผู้สื่อข่าวสัมภาษาณ์ภายหลังจากที่ซิโก้ประกาศยุติบทบาทหน้าที่การคุมทีมชาติชุดใหญ่ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 31 เมษายนทีผ่านมา ซึ่งนายกลูกหนังไทยได้ตอบคำถามแก่ผู้สื่อข่าวหลากหลายประเด็น พร้อมยืนยันว่าทราบเรื่องลาออกพร้อมๆทุกคน แต่ยังต้องรอดูอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการกีฬาฟุตบอลวิถีของฟุตบอล การเปลี่ยนโค้ช หรือนักเตะ ที่อื่นก็มีให้เห็น และผมเห็นว่ามันก็เป็นเรื่องปกติที่พบเห็นกันโดยทั่วไป เพราะฉะนั้นการที่ซิโก้ ตัดสินใจลาออกจากการทำหน้าที่ ก็เป็นเรื่องปกติของวิถีฟุตบอลนายกกล่าวเริ่มถึงความเปลี่ยนแปลง

ไม่มีการได้พูดคุยกันก่อนก็ทราบจากน้องๆผู้สื่อข่าว จากที่มีคนส่งมาให้ดู ส่วนเรื่องการลาออกอย่างเป็นทางการก็ต้องรอซิโก้จะดำเนินการอย่างไร

ถ้าว่ากันตามสัญญา ในสัญญาเขียนไว้ชัดเจนว่า การทำหน้าที่ของโค้ชนั้นจะถูกประเมินจากสมาคมหรือนายจ้าง ถ้าการทำหน้าที่ของโค้ชไม่เป็นที่พอใจสมาคมหรือนายจ้าง ทางนายจ้างสามารถที่จะบอกเลิกสัญญาได้ โดยเหตุผลไม่สามารถปฏิบัติตามที่สมาคมตั้งไว้

และยังได้กล่าวถึงการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามานั่งตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทยต่อไป

ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายเทคนิค ตลอดจนฝ่ายต่างประเทศ อย่างที่ทราบว่ามีโค้ชชาวไทยและต่างชาติส่งโปรไฟล์เข้ามาสมัครการทำหน้าที่ทุกระดับอายุ เราก็เก็บโปรไฟล์ไว้ เพราะว่าการที่เราจะจ้างไม่ใช่ว่าเราจะจ้างใครแล้วได้ดั่งใจ โค้ชดีๆมักมีจะมีภารกิจ การที่จะได้หัวหน้าผู้ฝึกสอนจะต้องลงตัวทั้งสองฝ่าย จะด่วนสรุปคงยาก

ถ้าให้เลือกได้ สเปคในใจผมคือโค้ชที่มีประสบการณ์หรือโค้ชที่เคยทำทีมชาติไปถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว การที่จะเดินทางไกลเข้าป่าก็ควรจะนายพรานที่รู้เส้นทางเดินทางไปสู่เป้าหมายได้เร็วและปลอดภัย และที่สำคัญพอถึงที่หมายแล้วนายพรานจะบอกเราว่าควรทำอย่างไรต่อไป

สามแมตช์ที่เหลือมันไม่มีความหมายแล้ว ถึงเราชนะสามครั้ง เราก็ไม่สามารถไปรอบสุดท้ายได้ ฉะนั้นแมตช์ที่เหลืออาจจะเป็นแมตช์ที่ทดสอบโค้ช หรือนักเตะใหม่ เพื่อเตรียมทีมไว้ในวันข้างหน้า ผมไม่ได้เตรียมไม่ใช่แค่ปีหน้า ผมวางเป้าหมายไปถึงปี 2026 คาดว่าในปีนั้นฟีฟ่าได้เพิ่มโควตา 4 ทีมเป็น 8 ทีม ไทยมีโอกาส ณ วันนี้อยากให้แฟนบอลอดใจรอปี 2026 ซึ่งเราจะต้องเตรียมแต่ยู14 ยู16 การวางรากฐานวันนี้ สำคัญยิ่งกว่า  ผมจะทำทุกอย่าง วางรากฐานโครงสร้าง เพื่อไปสู่เป้าหมาย มันอาจจะช้าไป ว่าทำไมไม่อีก 4 ปี

ถ้าเซ็นสัญญากับกับเอคโคโนแล้ว เมื่อเซ็นเรียบร้อยแล้ว เขาจะคุยว่าจะทำโรดแมฟให้เรา หรือพันธะว่าจะสามารถสร้างทีม เป้าหมายแรกที่อยากเห็นคือการทำทีทเยาวชนไปฟุตบอลโลกให้ได้ก่อนในระยะอันใกล้ ถ้าทำได้และคิดต่อว่าทีมชุดใหญ่จะทำอย่างไรต่อไป ไม่ใช่จางมาเสียเงินและทำทีมไปวันๆ ผมทำงานเป็นระบบ คุณเข้ามาต้องตอบโจทย์เรา ถ้าไม่ได้ก็เลิกกัน

ผมไม่ใช่คนที่จะพาทีมชั้นนำเอเชีย ไปเป็นทีมไปรอบสุดท้ายบอลโลก คนที่พาไปคือโค้ชที่ทำหน้าที่ต่เกียรติศักดิ์ อาจจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ก็ได้ โค้ชที่ได้เบื้องต้นอาจจะไม่ดีก็ได้  สามนัดที่เหลืออาจจะไม่ได้อย่างที่หวังไว้ ต้องลองผิดลองถูก เมื่อไม่ดีก็ต้องเปลี่ยน ผมเป็นนายกมีหน้าที่เปลี่ยน ถ้าไม่ดีก็เปลี่ยน ถ้าดีก็ทำต่อ ต้องแบ่งแยกหน้าที่ถูกต้อง

ในการเลือกโค้ชใหม่ถ้าเซ็นสัญญากับเอคโคโนแล้ว ชุดเยาวชนเขาเป็นคนจัดเป็นโค้ชจากสเปนทั้งสิ้นทน่วนชุดใหญ่ต้องมาคุยกัน อาจจะเป็นที่คาดหวัง หรือต้องคอยดู เชื่อว่าโค้ชดีๆเขาไม่มาเซ็นแค่สามแมตช์เท่านั้นหรอก ต้องเซ็นว่าผมลองดูสามแมตช์ ถ้าดีก็ทำต่อ ถ้าไม่ดีก็เปลี่ยนใหม่

อย่างที่บอกผมอยากได้โค้ชที่เคยพาทีมไปรอบสุดท้ายบอลโลก แต่ถ้าเขาติดงานกันหมด ผมก็ต้องไปหาโค้ชชั่วคราวมาขัดตาทัพก่อน เมื่อถึงเวลาที่ลงตัว เขาพร้อมเราพร้อมก็ตกลงแต่งงานกันได้ ไม่ใช่ว่าเราสวยหล่อเลือกได้ เราเปลี่ยนแล้วก็ไม่กลัวอายแล้ว ถ้ากล้าเปลี่ยนก็ต้องหาที่มันดีกว่า

สามแมตช์ที่เหลือ อาจจะเป็นการลองผิดลองถูกในเรื่องของโค้ชและนักเตะที่อาจจะมีการส้รางหน้าใหม่ขึ้นมาลองดู ฉะนั้นอย่าคาดหวังเยอะ แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด

นอกจากนี้ยังทิ้งท้ายยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ ซิโก้ แต่อย่างใด ก่อนที่กุนซือที่พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซูซูกิคัพ สองสมัย จะประกาศลาออก

ส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหากับซิโก้ ทุกครั้งเมื่อจบการแข่งขัน ถ้าผลการแข่งขันต้องมีการปรับ ก็จะบอกว่าเดี๋ยวมาคุยกัน เหมือนการต่อสัญญา ให้หาเวลามาคุยกัน แต่ครั้งนี้ที่ซิโก้ได้ตัดสินใจ ก็เคารพในการตัดสิน ทุกคนมีเหตุผลไม่เหมือนกัน แต่เหตุผลของผมคือคุยก่อนค่อยตัดสินใจ แต่ในครั้งถือว่าเป็นสิทธิที่เราต้องให้เกียรติและเคารพเขา