ฟุตบอลไทย ไทยลีก

TRIBE TALK : ธฤติ โนนศรีชัย กับบทบาทใหม่ในวงการฟุตบอล

พออายุเริ่มมากขึ้น นักเตะอาชีพก็เริ่มทำการหาลู่ทางต่อยอดในช่วงชีวิตแขวนสตั๊ด ส่วนมากก็คงหนีไม่พ้นการไปเรียนโค้ช เพื่อนำมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับแข้งรุ่นหลัง หรือจะเป็นเจ้าหน้าที่ทีมฟุตบอลที่ตัวเองต้นสังกัดอยู่ เพื่อตอบแทนในช่วงชีวิตค้าแข้ง

แต่สำหรับ “ดอย” ธฤติ โนนศรีชัย ดีกรีอดีตแข้งช้างศึกที่ค้าแข้งให้กับทีมบีอีซี เทโรศาสนนั้น กลับไม่ใช่อย่างนั้น เจ้าตัวเริ่มมีการวางแผนอนาคตเรียบร้อย หลังจากจะมีแพลนแขวนสตั๊ดในการเปิดบริษัท เอเย่นต์ เพื่อดูแลสิทธิประโยชน์ให้กับนักเตะ แทนที่จะเป็นโค้ชเหมือนกับรุ่นพี่ที่เลิกราอาชีพนักเตะไปก่อนหน้านี้

“ที่ผ่านๆมา ก็เห็นว่านักเตะในระดับสากลเขาใช้เอเย่นต์กันหมด และนักเตะไทยในหลายๆครั้งก็ถูกสโมสรเอาเปรียบ”  ปราการหลังมังกรไฟเริ่มพูดถึงอาชีพหลังแขวนสตั๊ด

“จริงๆมาทำตรงนี้ เราเอาเรื่องเงินมาทีหลังนะ เราคิดถึงหัวอกนักฟุตบอลที่ได้สัญญาไม่ค่อยเป็นธรรมมากกว่า”

ซึ่งส่วนตัวของธฤติเองนั้น ก็มีเอเย่นต์เป็นของตัวเองเช่นกัน ทว่า เอเย่นต์นั้นเป็นเพื่อนที่สามารถไว้ใจกันได้ เลยไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ เพราะส่วนใหญ่เจ้าตัวเป็นฝ่ายที่ดีลกับสโมสรเองทุกอย่าง ส่วนเอเย่นต์นั้น คอยให้คำปรึกษา เลยทำให้เป็นส่วนหนึ่งที่เจ้าตัวอยากจะลองทำอาชีพนี้อีกเช่นกัน โดยการปรึกษาและศึกษาอย่างจริงจังจากจากคนรอบข้างตัว

“จริงๆมันก็มีสอบนะ แต่ด้วยบริษัทที่มีทีมกฎหมาย และมีฟีฟ่าไลเซ่นอยู่แล้ว ทำให้ตัวเองทำงานเหมือนเหมือนฟรีแลนซ์มากกว่า ส่วนตัวคุณสมบัติสำคัญที่เอเย่นต์ต้องมีคือคอนเนคชั่น และความน่าเชื่อถือ”

และอย่างที่พูดไปข้างต้น การที่จะเป็นเอเย่นต์ได้ ส่วนหนึ่งจะต้องมีความน่าเชื่อถือให้กับนักเตะในสังกัดของตัวเอง รวมไปถึงคอนเนคชั่นต่างๆ ซึ่งตรงนี้ทำให้ธฤตินั้นมีเครดิตดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดจากการเป็นนักเตะมาก่อนและทุกๆคนรู้จักกันเป็นอย่างดี

“การที่เราเป็นนักบอลมาก่อน มันก็มีส่วนที่ทำให้เรามีภาษีดีกว่า ด้วยความน่าเชื่อถือ เอเย่นต์ส่วนใหญ่เขาก็ไม่ได้เป็นนักฟุตบอล แต่ก็ต้องสร้างเครดิตมาเพื่อให้น่าเชื่อถือ แต่ว่าเราเริ่มต้นพื้นเพด้วยการเป็นนักฟุตบอลมาก่อน ทำให้สโมสรในไทยรู้จักกับเรา ก็มีส่วนให้นักเตะในประเทศเลือกผมเป็นคนดูแลสิทธิประโยชน์ตรงนี้เช่นกัน”

ซึ่งนอกจากจะเริ่มทำร้านบริษัทเอเย่นต์แล้ว ดอยก็ยังมีธุรกิจที่ทำมานานแล้วเช่นกันอย่างร้านมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากเจ้าตัวเป็นสิงห์นักบิดตัวยง “มอเตอร์ไซต์อันนี้มีมานานแล้วเช่นกัน ส่วนบริษัทเอเย่นต์ก็กำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เดิมคือบริษัทมีอยู่แล้วเป็นของต่างชาติ”

“ถ้าตัวผมมาทำเต็มตัวและมาเปิดสาขาประเทศไทย และดูฝั่งเอเชีย แปซิฟิค ส่วนหนึ่งอยากให้นักฟุตบอลไทยได้ออกไปมีประสบการณ์ที่เมืองนอกบ้าง ซึ่งตอนนี้บริษัทผมก็เปิดทำการเรียบร้อยแล้ว และก็มีนักเตะไทยที่ไว้วางใจให้ผมได้ดูแลตรงนี้เหมือนกัน”

สุดท้ายเจ้าตัวมองอาชีพเอเย่นต์นักฟุตบอลกับวงการลูกหนังในบ้านเราว่า “มองว่าเอเย่นต์ก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรฟุตบอล ส่วนใหญ่ที่มีการโยกย้ายทีมหลายๆครั้ง ถ้าเป็นของสากล เอเย่นต์จะมีส่วนสำคัญมาก ณ ตอนนี้เมืองไทย ยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าไหร่ ผมเชื่อว่านักฟุตบอล 90 % นั้น ไม่มีเอเย่นต์แน่นอน น่าจะยกมาตรฐานให้สูงขึ้นแน่นอน”

ก็ต้องติดตามกันว่าเอเย่นต์รายนี้จะพานักเตะไทยคนไหนส่งออกไปค้าแข้งต่างแดน รวมถึงอาจจะดึงนักเตะดังๆ เขามาเล่นในลีกบ้านเรา เพื่อเป็นการยกระดับและพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวไปอีกขั้น