ฟุตบอลไทย TRB FEATURE

เปิดกฏไทยลีก : เมืองทองอาจจะคว้าแข้งต่างชาติแทนเคลตันไม่ได้?

จากกระแสข่าวที่ออกมาค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่าดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลโตโยต้า ไทยลีก กำลังจะกลายเป็นอดีตแข้งเมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ที่น่าสนใจกว่าคือใครจะมาแทนที่เขา และที่สำคัญจะสามารถส่งชื่อแทนในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดนักเตะรอบแรกได้หรือไม่ เมื่อสโมสรได้ใช้สิทธิ์ลงทะเบียนผู้เล่นต่างชาติครบแล้ว

ตามรายชื่อที่ปรากฏในเกมนัดเปิดสนามโตโยต้า ไทยลีก 2017 ระหว่าง บางกอกกล๊าส เอฟซี กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กิเลนผยอง ได้ขึ้นทะเบียนผู้เล่นต่างชาติครบ 5 รายแล้วประกอบด้วย

1 .ซิสโก้ ฆิเมเนซ ชาวสเปน (โควต้าต่างชาติ)
2 .เคลตัน ซิลวา ชาวบราซิล (โควต้าต่างชาติ)
3 .นาโออากิ อาโอยามะ ชาวญี่ปุ่น (โควต้าเอเชีย)
4 .เซลิโอ ซานโต้ส ชาวบราซิล (โควต้าต่างชาติ)
5 . ลี โฮ ชาวเกาหลีใต้ (โควต้าเอเชีย)

โดย 3 รายแรกนั้นถูกส่งลงสนามเป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้ ขณะที่ เซลิโอ ได้ลงมาเป็นตัวสำรองช่วงท้าย มีเพียง ลีโฮ ที่ไม่ได้ลงสัมผัสเกม

ใบประกบคู่เกมนัดเปิดสนามระหว่าง บางกอกกล๊าส เอฟซี กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด

ตามระเบียบข้อบังคับการแข่งขันโตโยต้า ไทยลีก 2017 บทที่ 5 : การขึ้นทะเบียน และคุณสมบัติของผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ทีม และนักกีฬาฟุตบอล (ตั้งแต่หน้า 26 เป็นต้นไป)

–  ข้อ 30.2. ระบุว่า จำนวนรายชื่อผู้เล่นในแต่ละทีมให้ได้ไม่เกิน 35 คน (แต่กรณีที่ส่งทีมสำรองเข้าร่วมแข่งขันจะส่งรายชื่อได้ 50 คน ซึ่งอยู่ในกฏเพิ่มเติมเรื่องลีกสำรอง ภาคผนวก 3 ข้อ 3 หน้า 38) และข้อ 30.3 ระบุว่า การส่งชื่อนักกีฬาชาวต่างชาติให้ส่งได้ไม่เกิน 5 คน ในจำนวน 35 คน

–  ข้อ 30.6. ที่ระบุว่า การส่งรายชื่อขึ้นทะเบียนเมื่อเริ่มต้นการแข่งขันตามข้อ 30.2 องค์กรสมาชิก(สโมสร)จะส่งชื่อนักกีฬาฟุตบอลไม่ครบ 35 คนก็ได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 20 คนและจะต้องนำส่ง “ฝ่ายจัดการแข่งขัน” ก่อนการแข่งขันนัดแรกของลีกนั้นจะ เริ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 30 วัน นอกจากนั้นแต่ละทีมต้องคงจำนวนนักกีฬาฟุตบอลขั้นต่ำไว้ไม่น้อยกว่า 20 คน ตลอดฤดูกาล ส่วนการส่งชื่อนักฟุตบอลขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมจากจำนวน 20 คน ในวรรคต้น สามารถกระทำ ได้จนถึงวันปิดระบบ “ทีเอ็มเอส” ของ “ฟีฟ่า” (การซื้อ-ขายนักกีฬาฟุตบอล) และจะต้องจัดส่งเอกสาร ให้กับ “ฝ่ายจัดการแข่งขัน” ก่อนวันที่จะลงแข่งขันไม่น้อยกว่า 3 วันทำการจึงจะลงทำการแข่งขันได้

ในกรณีนี้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ส่งชื่อผู้เล่นขึ้นทะเบียนจนถึงเกมนัดแรกดังปรากฏในเว็ปไซต์ไทยลีก จำนวน 27 คน โดย เมืองทอง ไม่ได้ส่งทีมเข้าร่วมลีกสำรองจึงยังสามารถส่งชื่อผู้เล่นเพิ่มเติมให้ครบจำนวน 35 คนได้จนถึงวันปิดระบบ ทีเอ็มเอส (22 กุมภาพันธ์ 2560) ได้อีกจำนวน 8 คนแต่กรณีนี้ต้องเป็นผู้เล่นไทยทั้งหมด เนื่องจากผู้เล่นต่างชาติได้ลงทะเบียนครบ 5 คนตามข้อ 30.3 แล้ว

ขณะที่ข้อ 30.7. ซึ่งเป็นข้อสำคัญของกรณีนี้ ระบุว่า การถอนชื่อนักกีฬาฟุตบอลออกจากทีม ตามข้อ 30.6 จะสามารถทำได้โดยไม่เสียสิทธิเกี่ยวกับจำนวนนักกีฬา ฟุตบอลตามข้อ 30.2  *แต่จะต้องแจ้งต่อ “ฝ่ายจัดการแข่งขัน” ก่อนการแข่งขันนัดแรกของลีกนั้นจะเริ่มขึ้นไม่น้อย กว่า 7 วัน*

ระเบียบข้อสำคัญที่อาจจะทำให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้องชวดการคว้านักเตะต่างชาติเข้ามาแทนเคลตัน ในช่วงเลกแรก

จากข้อนี้จะเห็นได้ว่าหากการย้ายออกจากทีมของ เคลตัน ซิลวา เกิดขึ้นราว 1 สัปดาห์ก่อนเกมการแข่งขันระหว่าง บางกอกกล๊าส กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเริ่มขึ้น พวกเขาจะยังสามารถถอนชื่อเคลตันโดยไม่เสียสิทธิ์เรื่องจำนวนนักเตะไปแต่อย่างใด คล้ายกับกรณีที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ไม่มีชื่อ เอ็ดการ์ มานูชารยาน ที่ขึ้นทะเบียนไปก่อนหน้านี้แต่ไม่มีในรายชื่อเกมนัดเปิดสนามกับการท่าเรือ เอฟซี และล่าสุดได้ถอนชื่อเพื่อคว้าตัว ฆาเบียร์ อคุนญา กองหน้ารายใหม่ชาวปารากวัย เข้ามาทดแทน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าสโมสรได้แจ้งล่วงหน้าต่อฝ่ายจัดการแข่งขันตามกฏแล้ว

รายชื่อของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ไม่มี เอ็ดการ์ มานูชารยาน ตั้งแต่เกมแรก

แต่ทว่าในส่วนของ เคลตัน ที่ถูกส่งลงสนามไปแล้วในเกมแรกนั่นเท่ากับว่า เมืองทอง ไม่ได้แจ้งถอนชื่อก่อนการแข่งขันนัดแรกของลีกจะเริ่มขึ้น 7 วัน จึงต้องเสียสิทธิ์ในโควต้าของผู้เล่นรายนี้ไป

อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันออกมาจากฝ่ายจัดการแข่งขันหรือสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ว่าหาก เมืองทอง คว้าตัวผู้เล่นต่างชาติเข้ามาใหม่ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายนี้จะมีช่องทางใดของกฏระเบียบที่สามารถใส่ชื่อแทน เคลตัน ได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆพวกเขายังมีโควต้าสำหรับการเสริมนักเตะไทยอีก 8 รายเพื่อเข้ามาทดแทนการขาดหายไปของ ยอดดาวยิงคนสำคัญรายนี้

นอกจากกรณีของ เคลตัน ซิลวา แล้ว อีกเคสที่น่าสนใจก็คือการย้ายทีมของบรรดานักเตะไทยช่วงสัปดาห์สุดท้ายของตลาดที่ลงสนามให้กับต้นสังกัดในนัดแรกไปแล้วอาทิ ภานุพงศ์ พลซา ที่ย้ายจาก ชลบุรี เอฟซี มาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดซึ่งเขาได้ลงเล่นเป็นสำรองในเกมที่ทั้งสองทีมพบกัน หรือ ซากีรีน ตีกาสม และ จิตปัญญา ทิสุด ที่ลงเล่นให้ บุรีรัมย์ บี ก่อนจะย้ายไปบางกอกกล๊าส

– ข้อ 30.9. ระบุว่า อนุญาตให้มีการถอนชื่อนักกีฬาฟุตบอลที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ ออกจากทีมได้ทุกขณะ แต่จำนวนนักกีฬาฟุตบอลที่ เหลืออยู่ต้องไม่น้อยกว่า 20 คน ในกรณีนี้ โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นทะเบียนผู้เล่นไว้ 44 คน และ บางกอกกล๊าส 48 คน (ทั้งสองทีมส่งทีมสำรอง) ขณะที่ยังอยู่ในช่วงเวลาของการเปิดระบบทีเอ็มเอส บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จึงยังสามารถเพิ่มผู้เล่นไทยเพิ่มได้ 6 และบางกอกกล๊าส ส่งเพิ่มได้ 2 คน (ผู้เล่นต่างชาติครบ 5 คนทั้งสองทีม)

นั่นหมายความว่า จิตปัญญา และ ซากีรีน จะถือเป็นสองผู้เล่นสุดท้ายของ บางกอกกล๊าส ที่ขึ้นทะเบียนได้ในเลกแรก(ครบ 50 คน) ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ยังสามารถใส่ชื่อของ ภานุพงศ์ ได้แต่ไม่สามารถเพิ่มผู้เล่นให้มากกว่า 6 คนเพื่อทดแทนโควต้า จิตปัญญา กับ ซากีรีน ที่ปล่อยไปบางกอกกล๊าสได้เช่นกัน

และเมื่อมาดูระเบียบข้อที่ 30.9.3. ที่ระบุว่า ไม่อนุญาตให้นักฟุตบอลที่มีการขึ้นทะเบียนโดยสมบูรณ์ โอนย้ายไปยังสโมสรอื่นเกิน 3 สโมสรต่อหนึ่ง ฤดูกาล และ/หรือ ไม่อนุญาตให้นักฟุตบอลที่มีการส่งรายชื่อลงทำการแข่งขันอย่างเป็นทางการ โอนย้ายเกิน 2 สโมสรต่อหนึ่งฤดูกาลแข่งขัน

ทั้ง จิตปัญญา ,ซากีรีน และ ภานุพงศ์ ได้ลงทำการแข่งขันอย่างเป็นทางการไปแล้วในนัดเปิดสนามและได้ทำการโอนย้ายสโมสร 2 ทีมเรียบร้อย นั่นทำให้จะไม่สามารถย้ายทีมในช่วงตลาดนักเตะรอบสองได้

ระเบียบการแข่งขัน >> อ่านเพิ่มเติม